เผยโฉมให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาย่านสี่แยกราชประสงค์ หรือผู้ที่แวะช้อปปิ้งที่เซ็นทรัลเวิลด์ได้เห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับแอปเปิล สโตร์ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ หรือในชื่อเฉพาะที่เรียกว่า Apple Central World
โดยข้อมูลจากเว็บไซต์แอปเปิลประเทศไทยได้แจ้งว่าจะเปิด Apple Central World ให้ผู้ที่สนใจแวะเข้ามาชมได้ในวันที่ 31 ก.ค. เวลาตั้งแต่ 10.00 น. อย่างไรก็ตามการเข้าชมนั้นต้องมีการจองคิวโดยคลิกเข้าไปที่ https://www.apple.com/th/retail/centralworld/ ซึ่งหลังจากทางเว็บไซต์ได้ประกาศข่าวออกมา ก็พบว่าสาวกแอปเปิลทั้งหลายให้การตอบรับที่ดีจนคิวของวันที่ 31 ก.ค.นั้นเต็มหมดแล้วทุกรอบ
แต่ทางแอปเปิลสโตร์ได้แจ้งเพิ่มเติมให้กับลูกค้าที่แสดงความสนใจเพื่อจะเข้าเยี่ยมชมApple Central World ว่า "โปรดกลับมาดูที่เว็บไซต์เป็นระยะๆ ว่ามีคิวว่างจากการยกเลิกหรือไม่ โดยผู้ที่ไม่ได้ทำการจองมาก่อนจะไม่สามารถเข้าเยี่ยมชมร้านได้ ขอขอบคุณที่คุณเข้าใจและอดทนรอในช่วงเวลาเช่นนี้"
เรียกได้ว่าตอบรับกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส่วนอะไรคือความพิเศษที่ทำให้สาวกแอปเปิลถึงกับอดใจรอไม่ไหว และอยากจะเข้าชมApple Central World เป็นกลุ่มแรกๆ วันนี้เราจะลองมารวบรวมไฮไลท์ต่างๆมานำเสนอ อย่างแรกที่เป็นความพิเศษของแอปเปิลสโตร์สาขานี้คือเป็นร้านค้าปลีกแห่งที่ 2 และเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยสาขาแรก คือ สาขาไอคอนสยาม หรือ Apple Iconsiam ที่ได้ชื่อว่าเป็นแอปเปิล สโตร์ที่สวยอันดับ 1 ของเอเชียและสวยเป็นอันดับ 4 ของโลก (ข้อมูล ณ ปี 2019 )
ไฮไลท์ต่อมาคือ ดีไซน์แบบกระจกทั้งหมดเป็นครั้งแรกและตั้งอยู่ใต้หลังคา Tree Canopy ที่ยื่นออกมา ทำให้เวลาเดินเข้าไปข้างในลูกค้าสามารถขึ้นลงระหว่างสองชั้นผ่านบันไดวนที่โอบล้อมแกนไม้หรือโดยสารลิฟต์ทรงกระบอกที่หุ้มด้วยสแตนเลสสตีลที่ขัดเงาเหมือนกระจก ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินเข้าร้านจากชั้นล่างหรือชั้นบน ซึ่งเชื่อมกับทางไปรถไฟฟ้าและศูนย์การค้าได้
ในแง่ของการดีไซน์ พื้นที่ภายในและการจัดโซนพื้นที่ต่างๆของ Apple Central World มีการออกแบบใหม่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Forum, Boardroom และโซนจัดแสดงแบบอิสระ Forum ซึ่งมี Video Wall อยู่ตรงกลาง จะเป็นพื้นที่สำหรับเซสชัน Today at Apple ในอนาคต ที่อาจจะจัดร่วมกับศิลปิน นักดนตรี และครีเอทีฟแถวหน้าของกรุงเทพ
นอกจากนั้นแล้วจะมีโซนจัดแสดงแบบอิสระ ซึ่งตั้งอยู่รอบๆแผนผังร้านรูปวงกลมที่ชั้น 1 โดยในโซนนี้จะมี ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เสริมที่จัดเต็มคัดสรรมาเพื่อตอบทุกโจทย์ทุกความสนใจของสาวกแอปเปิล และพื้นที่ตรงนี้ยังเปิดให้ผู้ประกอบการ นักพัฒนา และเจ้าของธุรกิจได้มารับการให้คำปรึกษาและคำแนะนำแบบเป็นส่วนตัวได้
ส่วนพื้นที่ไฮไลท์ด้านนอกที่ดึงดูดสายตา น่าจะเป็นต้นหูกระจงขนาดใหญ่ที่ปลูกไว้โดยรอบ และพื้นที่ด้านนอกนี้เองยังมีม้านั่งเพื่อให้สาวกแอปเปิล หรือผู้คนทั่วไปที่อยู่บริเวณโดยรอบสามารถมาพบปะพูดคุย
อีกส่วนที่ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของ Apple Central World คือมีทีมให้บริการกว่า 130 คน พร้อมดูแลลูกค้าใน 17 ภาษา
ที่ขาดไม่ได้และถือว่าสำคัญอย่างมากในยุคโควิด -19 คือการรักษามาตรการด้านความปลอดภัยและสุขภาพให้กับพนักงานและผู้มาเยือนอย่างเคร่งครัด โดยทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย(มีให้) การตรวจวัดอุณหภูมิโดยไม่มีการสัมผัสตัว จำกัดจำนวนผู้เข้าร้าน รักษาระยะห่างทางสังคม ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมอย่างต่อเนื่อง
เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์คร่าวๆมานำเสนอสาวกแอปเปิล ส่วนหลังจากเปิดอย่างเป็นทางการและจะมีอะไรพิเศษที่มากไปกว่านี้หรือไม่นั้น ก็คงต้องคอยติดตามกันต่อไป และขอปิดท้ายด้วยเมสเสจเก๋ๆที่แอปเปิลไทยแลนด์นิยามให้กับสาขาใหม่นี้ว่า
"สี่แยกแห่งความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ ขอต้อนรับสู่สี่แยกแห่งความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ Apple Central World ที่ใจกลางสี่แยกราชประสงค์จะพาคุณไปสัมผัสกับความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่นี่จะจุดประกายความอยากรู้อยากเห็น ต่อยอดจินตนาการ และทำไอเดียของคุณให้มีชีวิตไม่ใช่แค่ร้าน แต่เป็นทั้งที่แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ทดลอง และลงมือทำทุกความชอบของคุณให้เป็นจริง"
เครดิตภาพ ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ (Tanachai Pramarnpanich)