‘พุทธิพงษ์’ ติดตามงาน ‘ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม’ ภาคใต้ พบต้องคัดกรองกว่า 25 ล้านข่าว

02 พ.ย. 2563 | 02:49 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ย. 2563 | 10:32 น.

รมว.ดีอีเอส เปิดงานสัมมนาสร้างการรับรู้เท่าทันข่าวปลอม พร้อมเผยผลดำเนินงานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมภาคใต้ พบต้องคัดกรองกว่า 25 ล้านข่าว

    นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า วันนี้  (2 พ.ย. 63)  ได้เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “สร้างการรับรู้ เพื่อรู้เท่าทันและรับมือกับข่าวปลอม ครั้งที่ 3”  จ.พังงา ซึ่งจัดขึ้นภายใต้โครงการศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอม โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมครอบคลุมทั้ง ภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคใต้ บุคลากรด้านสาธารณสุข ภาคสังคมสื่อมวลชน และภาคประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในกระบวนการตรวจสอบข่าวปลอมได้ด้วยตนเองวิธีเช็คแหล่งที่มา วิธีสังเกตหัวข้อพาดหัวข่าว และได้ทราบถึงการแจ้งเบาะแสให้กับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม

      สำหรับผลการดำเนินงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ตั้งแต่วันจัดตั้งศูนย์ฯ ถึงช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา (1 พ.ย.62-28 ต.ค.63) จากการรวบรวมข้อมูลทั้งจากที่มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามา และระบบติดตามการสนทนาทางโซเชียล (Social listening) พบว่า มีจำนวนข้อความข่าวที่ต้องคัดกรองทั้งหมด 25,835,350 ข้อความ ข้อความข่าว ที่เข้าเกณฑ์ดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 19,466 ข้อความ โดยมีจำนวนเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 6,826 เรื่อง ในจำนวนนี้ 56% เป็นข่าวในหมวดสุขภาพ ตามมาด้วยหมวดนโยบายรัฐ 2,620 เรื่อง(38%), หมวดเศรษฐกิจ 251 เรื่อง (4%) และหมวดภัยพิบัติ 143 เรื่อง (2%)

‘พุทธิพงษ์’ ติดตามงาน ‘ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม’ ภาคใต้ พบต้องคัดกรองกว่า 25 ล้านข่าว

ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เป็นหนึ่งในนโยบายหลัก 12 ด้านของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการจัดการข้อมูลที่เป็นเท็จทางสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนกและความเสียหายกับประชาชนและสาธารณชนในวงกว้าง บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐทุกภาคส่วน ในการตรวจสอบและเผยแพร่ข่าวที่ถูกต้องแก่ประชาชน ยึดหลักการสำคัญในการทำงานคือ ความเที่ยงธรรมและความปราศจากอคติในการคัดเลือกข่าว ให้ความเป็นธรรมแก่ฝ่ายที่ถูกพาดพิงและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเท่าเทียมกัน สามารถอธิบายกระบวนการการพิสูจน์ การตรวจสอบ แหล่งที่มาของบทความและข้อเท็จจริงต่างๆ ได้” นายพุทธิพงษ์กล่าว