รายงานข่าวระบุว่า บริษัท อินโนเวชั่น คอนซัลท์ติ้ง เซอร์วิส จำกัด หรือ ICS ผู้ให้บริการที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญโซลูชัน ERP และ Digital Technology & Innovation จาก SAP เปิดเผยว่าในปี 64 ธุรกิจของไทยต้องเผชิญกับปัญหาที่ท้าทาย โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิด 19 (Covid-19) รอบใหม่ ทำให้หลายอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ ถูก Disrupt อย่างรุนแรงททำให้ทุกองค์กรต้องปรับแผนงานซึ่งเป็นผลกระทบจากการจำกัดสถานที่ในการเข้าทำงาน พนักงานที่ขาดหายไปจากเหตุสุดวิสัย การขาดแคลนวัตถุดิบ และอื่นๆ ดังนั้นการหาเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงโซลูชันดิจิทัล เข้ามาช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่องค์กร สามารถปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย ท่ามกลางวิกฤตที่รุนแรงซึ่งคาดว่าจะยังคงอยู่ไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปี
ทั้งนี้ ปี 64 นี้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถรับมือกับการแข่งขันและวิกฤตใหม่ๆ องค์กรควรจะประยุกต์ใช้โซลูชันดิจิทัลด้านการบริหารจัดการต่างๆ ประกอบด้วย
ระบบบริหารทรัพยากรขององค์กร Enterprise Resource Planning หรือ ERP ที่ครอบคลุมระบบงานด้านต่างๆ ตั้งแต่การผลิต การจัดหาทรัพยากร การขาย ระบบบัญชี การบริหารคลังสินค้า เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันแบบ Real Time อัพเดทข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ทุกมิติเพื่อใช้ในการตัดสินใจที่แม่นยำ ตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็ว
ระบบวางแผน และบริหารจัดการด้าน Supply Chain, Integrated Business Planning หรือ IBP เพื่อช่วยบริหารจัดการด้าน Supply Planning บริหารจัดการสต็อกสินค้า การพยากรณ์การขาย เพื่อให้ระบบซัพพลายเชนต่างๆสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยความคล่องตัว ช่วยลดเวลาการผลิต และตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ทันท่วงทีและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติอย่างระบบ RPA (Robotic Process Automation) เข้ามาสร้างกระบวนการทำงานอัตโนมัติ เพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆ เพื่อช่วยรวบรวม เชื่อมโยง และส่งต่อข้อมูลไปสู่ระบบต่างๆ เพิ่มความรวดเร็ว และลดความผิดพลาดในการทำงาน
การนำโซลูชันเพื่ออุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Manufacturing Solution) ที่ขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มสำหรับอุตสาหกรรมยุคดิจิทัลจาก Savigent ผสานเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และระบบปฏิบัติการในกระบวนการผลิต (Manufacturing Execution System : MES) เข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการควบคุม บริหารจัดการด้านการผลิตให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์โควิดรอบแรกที่ผ่านมา ทำให้ผู้ผลิตสินค้าต้องปรับตัวในด้านการวางแผน Demand & Supply ที่มีความผันผวนอย่างรุนแรง ซึ่งทาง ICS ได้เข้าไปช่วยวางระบบให้ลูกค้าในกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในการปรับกระบวนการผลิตสินค้า เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านความสะอาด ให้ได้ตามความต้องการของตลาดอย่างทันท่วงที โดยอาศัยข้อมูลการวิเคราะห์และตัดสินใจ ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องการความรวดเร็ว แม่นยำ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันที ซึ่งได้ทำให้บริษัทฯ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส สามารถสร้างรายได้ให้องค์กรได้มากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน โดยการนำเอาโซลูชัน SAP Integrated Business Planning หรือ IBP เข้ามาช่วยบริหารจัดการด้าน supply chain
และ SAP S/4 HANA เข้ามาช่วยวิเคราะห์ทั้งระบบตั้งแต่การวางแผนผลิตสินค้า การบริหารวัตถุดิบ ขนส่ง สต็อคสินค้า และระบบการขาย โดยเฉพาะช่วงวิกฤตที่วัตถุดิบมีจำนวนจำกัด การขนส่งสินค้าใช้เวลาที่ไม่แน่นอน ทำให้การดำเนินงานไม่สะดุด มีการวางแผนรองรับปัญหาเฉพาะหน้า ใช้ระบบข้อมูลวิเคราะห์แบบ Real time ปรับสินค้าให้ตรงตามความต้องการของตลาดได้ทันที
สำหรับการผลิตสินค้าแปรรูปและสินค้าด้านการเกษตร เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์อย่างมาก เพราะพืชผลการเกษตรแต่ละชนิดมีข้อมูลรายละเอียดต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง หรือทางภาคปศุสัตว์ ซึ่งทาง ICS ก็ได้เข้าไปช่วยลูกค้ากลุ่มนี้วางระบบได้ตั้งแต่ต้นน้ำของผู้ปลูก การวางระบบจัดการลงทะเบียนเกษตรกร วางแผนเก็บเกี่ยว คัดสรรเกรดของผลผลิต การนำผลผลิตเข้าโรงงาน รวมจนถึงการแปรรูป และนำสินค้าเข้าสู่ตลาด ซึ่งผู้บริโภคหรือผู้ซื้อปลายทางจะสามารถเช็คข้อมูลย้อนหลังได้
“ICS มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาในการขึ้นระบบ และนำเทคโนโลยีและโซลูชันที่ตอบโจทย์ในแต่ละธุรกิจ ด้วยการนำความเชี่ยวชาญในระบบ SAP S/4 HANA, SAP Integrated Business Planning, SAP iRPA Robotic Process Automation Robotic และ Savigent Platform เข้ามาช่วยแก้ไขในจุดอ่อนและอุปสรรคของธุรกิจ นอกจากนี้จากประสบการณ์ในธุรกิจที่ ICS ได้เคยวางระบบให้กับหลากหลายประเภทธุรกิจ จึงทำให้สามารถนำมาเป็นตัวชี้วัดให้กับลูกค้า เพื่อให้ได้งานที่มีประสิทธิภาพในระยะเวลาอันสั้น และลดการลงทุนได้อีกด้วย”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :