ดร. ชารอน ฮักเคนเนส นักวิเคราะห์อาวุโสของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า ใบรับรองวัคซีนดิจิทัลหรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัคซีนพาสปอร์ต" ถือเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาใหม่ที่มีความเป็นไปได้ในการสนับสนุนธุรกิจให้กลับมาดำเนินต่อและให้สังคมกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมอีกครั้งทั่วประเทศและทั่วโลก นอกจากช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อระลอกใหม่แล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสและความสะดวกในการส่งบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วกลับมายังสถานที่กักตัว เช่น สถานที่ทำงาน และประเทศที่เปิดให้เดินทางระหว่างประเทศ
ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมากลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและสุขภาพขนาดใหญ่หลายแห่งได้ร่วมมือกันเปิดตัว “โครงการหนังสือรับรองประวัติการรับวัคซีน (The Vaccine Credential Initiative)” เพื่อสร้างระบบการจัดเก็บข้อมูลและเรียกดูบันทึกการรับวัคซีนแบบดิจิทัล ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ได้เปิดตัวคณะทำงานด้านสุขภาพดิจิทัลเพื่อพัฒนากรอบการทำงานและมาตรฐานใบรับรองวัคซีนดิจิทัลอัจฉริยะสำหรับโรคไข้เหลืองและโควิด-19 เพื่อปูทางไปสู่การเพิ่มการรับรองการรับวัคซีนประเภทอื่น ๆ ในภายหลัง
ทั้งนี้ความพยายามอย่างหนักจากทุกภาคส่วนเหล่านี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนา วัคซีนพาสปอร์ตให้เกิดขึ้นจริง แม้จะยังมีคำถามสำคัญหลายประการ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ แหล่งที่มาและการตรวจสอบข้อมูล รวมถึงคำจำกัดความของภูมิคุ้มกันในกลุ่มของพวกเขา
แต่การนำวัคซีนพาสปอร์ตมาใช้ในวงกว้างมีอุปสรรคเกิดขึ้นมากมาย องค์กรภาคเอกชนและภาครัฐต้องทำความเข้าใจปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจส่งผลเสียเช่นเดียวกับคำมั่นสัญญา จึงจะสามารถวางแผนการนำมาใช้จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดย 10 คำถามสำคัญที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรวมถึงผู้กำหนดนโยบายของรัฐหรือองค์กรควรร่วมค้นหาคำตอบ ได้แก่
อย่างไรก็ตามหนทางที่ทำให้วัคซีนพาสปอร์ตใช้งานได้จริงนั้น การทำให้ผู้ใช้ยอมรับในวงกว้างต้องเกิดขึ้น ด้วยความท้าทายข้างต้นองค์กรที่กำลังพิจารณาการใช้วัคซีนพาสปอร์ตต้องเห็นด้วยในกรอบการกำกับดูแลที่อนุญาตการเข้าถึงสิทธิ์ ความเท่าเทียม การพิสูจน์ความถูกต้อง และแบ่งปันข้อมูลการรับวัคซีน
วัคซีนพาสปอร์ตดิจิทัลในระดับสูงจะต้องเปิดใช้งานบันทึกการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามความยินยอมเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ด้วยวิธีที่ปลอดภัยตรวจสอบได้และรักษาความเป็นส่วนตัว และต้องสามารถทำงานข้ามองค์กรและข้ามเขตพรมแดนได้ นอกจากนี้ยังต้องสร้างขึ้นบนมาตรฐานสากล มีความปลอดภัยและโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายอำนาจ ในแง่ของข้อมูลที่ได้มาต้องมีการกำหนดมาตรฐานข้อมูล การจัดรูปแบบและการแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งสำคัญ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :