ลอนดอน- 1 พ.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรระบุว่าการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในประเทศ "ผ่านจุดสูงสุดแล้ว" โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 674 ราย ทำให้ยอดรวมอยู่ที่ 26,711 ราย
จอห์นสันให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวระหว่างการรายงานข่าวสั้นรายวันที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรก หลังหายจากโรคโควิด-19 โดยจอห์นสันกล่าวว่า "เราผ่านจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดมาแล้ว" และตอนนี้สถิติต่างๆ "กำลังลดลง"
แพทริก วัลแลนซ์ (Patrick Vallance) หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักรยืนยันว่ายอดผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และยอดผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลใกล้ชิดลดต่ำลงเรื่อยๆ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตคงที่
จอห์นสันระบุว่าเขาจะเผยแพร่แผน "ครอบคลุม" ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะพูดถึง 3 ประเด็น ได้แก่ สหราชอาณาจักรจะฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างไร จะส่งเด็กกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้อย่างไร และจะให้ประชาชนกลับไปทำงานได้อย่างไร
อย่างไรก็ตามสหราชอาณาจักรต้องทำการทดสอบสำคัญ 5 ประการก่อน จึงจะสามารถผ่อนผันมาตรการเปิดประเทศได้
“ประการแรก เราต้องสามารถปกป้องระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) และศักยภาพในการรับมือกับสถานการณ์ของระบบ ประการที่สอง เราต้องลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้อย่างยั่งยืน ประการที่สาม อัตราการติดเชื้อต้องลดลง ประการที่สี่ เราต้องจัดการปัญหาเกี่ยวกับการตรวจเชื้อ และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) และประการที่ห้า เราต้องดำเนินการให้มั่นใจว่าสถิติของโรคโควิด-19 จะไม่พุ่งสูงสุดเป็นครั้งที่สอง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบบริการสุขภาพแห่งชาติได้” จอห์นสันกล่าวกับผู้สื่อข่าว
จอห์นสันระบุว่าแผนการดังกล่าวจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของคำถามที่ว่า “เราจะควบคุมโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องได้อย่างไร” ขณะผลักดันให้เศรษฐกิจกลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง
“เราจะดำเนินมาตรการต่างๆ ตามช่วงเวลาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับข้อมูล ซึ่งเราได้รับข้อมูลมหาศาลทุกวัน” จอห์นสันกล่าว
ขณะเดียวกันรัฐบาลสหราชอาณาจักรยังคงขยายศักยภาพการตรวจหาเชื้อไวรัสต่อเนื่อง จอห์นสันรายงานสถิติล่าสุดซึ่งระบุว่าสหราชอาณาจักรดำเนินการตรวจเชื้อแล้ว 901,905 ครั้ง ซึ่งตัวเลขนี้รวมการตรวจเชื้อ 81,611 ครั้งในวันพุธ (29 เม.ย.) โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลตั้งเป้าตรวจเชื้อให้ได้ 100,000 ครั้งต่อวันภายในสิ้นเดือนเมษายน นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังดำเนินการพัฒนาวัคซีนต้านโรคโควิด-19 อย่างเต็มที่
ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) ประกาศว่ามหาวิทยาลัยบรรลุข้อตกลงกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ระดับโลกของสหราชอาณาจักร เพื่อร่วมพัฒนาวัคซีน ผลิตวัคซีนในปริมาณมาก และแจกจ่ายวัคซีนที่อาจต้านโรคโควิด-19 ได้ ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการทดสอบ
มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดระบุว่าความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าจะเริ่มขึ้นทันที โดยทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ผู้คนทั่วโลกได้รับวัคซีนอย่างรวดเร็ว หากวัคซีนที่มหาวิทยาลัยทดสอบอยู่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพจริง