"ทรัมป์" สั่งทบทวนด่วน เตรียมยกเลิกสถานะพิเศษฮ่องกง

30 พ.ค. 2563 | 04:35 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ค. 2563 | 12:01 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาแถลงวานนี้ (29 พ.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐจะเริ่มกระบวนการยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง เพื่อตอบโต้การตัดสินใจของจีนที่จะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง และยังได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลก (WHO) ด้วย โดยเขาระบุว่า เพราะ WHO ดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ โดยให้จีนเป็นศูนย์กลาง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ผู้นำสหรัฐประกาศว่า "ฮ่องกงไม่มีอิสระในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอที่จะได้รับสถานะการปฏิบัติเป็นพิเศษที่สหรัฐได้มอบให้อีกต่อไป ดังนั้น ผมจึงได้สั่งให้คณะบริหารของผมเริ่มกระบวนการยกเลิกการยกเว้นด้านนโยบายที่ทำให้ฮ่องกงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษและแตกต่าง"

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การประกาศดังกล่าวมีขึ้น หลังจากจีนตัดสินใจเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 พ.ค.) ที่จะบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเพื่อกวาดล้างสิ่งที่จีนมองว่าเป็น “กิจกรรมที่เป็นการบ่อนทำลายในฮ่องกง” ซึ่งรวมถึงการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดความรุนแรงในปีที่ผ่านมา

\"ทรัมป์\" สั่งทบทวนด่วน เตรียมยกเลิกสถานะพิเศษฮ่องกง

ภายใต้นโยบาย "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ของจีนนั้น ฮ่องกงจะได้รับสิทธิและเสรีภาพในการเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองเป็นเวลา 50 ปี หลังจากที่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้กับจีนในปี 2540

 

สหรัฐเองก็ได้ให้สิทธิพิเศษกับฮ่องกงที่แยกจากจีนในด้านต่าง ๆ อาทิ ภาษีศุลกากรและการออกวีซ่า ภายใต้กฎหมายปี 2535 ของสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า จีนได้ละเมิดสัญญาที่ให้ไว้ด้วยการดำเนินนโยบาย "หนึ่งประเทศ หนึ่งระบบ" ไม่ใช่ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” อย่างที่เคยเป็นมา

 

ทั้งนี้ การเปิดกว้างทางเศรษฐกิจและเสรีภาพในการแสดงออกของฮ่องกง รวมถึงประเด็นอื่น ๆ นั้น ทำให้ฮ่องกงมีความน่าดึงดูดใจสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ทั่วโลก ช่วยให้ฮ่องกงเฟื่องฟูในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ และฮ่องกงยังมีบทบาทในการเป็นแหล่งระดมทุนให้กับบริษัทของจีนด้วย

\"ทรัมป์\" สั่งทบทวนด่วน เตรียมยกเลิกสถานะพิเศษฮ่องกง

ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดเผยว่า สหรัฐวางแผนจะดำเนินมาตรการเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่จีนที่เกี่ยวข้องทั้งโดยตรงและทางอ้อมในการทำลายความเป็นเอกราชของฮ่องกง

 

นอกจากนี้ ขณะที่แสดงความไม่พอใจจีนในประเด็นที่เกี่ยวกับฮ่องกง ผู้นำสหรัฐยังได้กล่าวโจมตีองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเขาวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น "หุ่นเชิด" ของจีน และให้ข้อมูลผิด ๆ จากฝ่ายจีนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

 

"จีนมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการควบคุมองค์การอนามัยโลก" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าว "เนื่องจากพวกเขาล้มเหลวในการดำเนินการตามที่ถูกร้องขอ และจำเป็นต้องมีการปฏิรูปอย่างมาก ในวันนี้เราจะยุติความสัมพันธ์ของเรากับองค์การอนามัยโลก และจะเปลี่ยนไปให้เงินทุนกับที่อื่น ๆ ทั่วโลก และที่ซึ่งต้องการความช่วยเหลือด้านสาธารณสุขอย่างเร่งด่วน"         

 

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้แจ้งกับ WHO ว่า เขาจะระงับการจ่ายเงินทุนสนับสนุน WHO อย่างถาวร และทบทวนการเป็นสมาชิกของสหรัฐ หาก WHO ไม่ดำเนินการปฏิรูปครั้งใหญ่ภายในเวลา 30 วัน  

     

ประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ภายในประเทศเกี่ยวกับการรับมือกับโรคโควิด-19 ก่อนการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.นั้น ได้เปลี่ยนมากล่าวโทษ WHO และ จีนซึ่งเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของโรคนี้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

 

การยกเลิกเงินทุนสนับสนุนของสหรัฐอย่างถาวรนั้นจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ WHO โดยสหรัฐเป็นผู้ให้เงินทุนรายใหญ่ในปี 2561 และ 2562 เป็นมูลค่าถึง 893 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% ของเงินทุนทั้งหมดของ WHO