รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง กลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ (G20) ได้ออกแถลงการณ์หลังการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยระบุว่า เศรษฐกิจทั่วโลก จะหดตัวลงอย่างรุนแรงในปีนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ซึ่งทางกลุ่มจะยังคงใช้เครื่องมือด้านนโยบายที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อปกป้องชีวิต งาน และรายได้ของประชาชน สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และยกระดับความสามารถในการฟื้นตัวของระบบการเงิน แม้ภาพรวมแนวโน้มของเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอนสูงก็ตาม
ในส่วนของโครงการบรรเทาหนี้ของ "กลุ่มG20" เพื่อช่วยประเทศต่างๆ รับมือกับ โควิด-19 นั้น รมต.คลังและผู้ว่าฯแบงก์ชาติ G20 ประมาณการว่า จนถึงขณะนี้มีประเทศกำลังพัฒนา 42 ประเทศขอเลื่อนชำระหนี้ทั้งสิ้น 5.3 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ G20 กล่าวในการประชุมผ่านระบบทางไกลครั้งก่อนหน้านี้ในเดือนเม.ย.ว่า กลุ่ม G20 และ Paris Club ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศร่ำรวยเช่น G7 ที่ให้ความช่วยเหลือด้านหนี้สินแก่ประเทศกำลังพัฒนา ได้ตกลงที่จะพักชำระหนี้แก่กลุ่มประเทศที่ยากจนที่สุด ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2563 ไปจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อให้การสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการดำเนินมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
IMF คาดโควิดฉุดศก.สหรัฐปีนี้หดตัว 6.6% เตือนอาจทรุดอีกหากระบาดไม่หยุด
อย่างไรก็ดี กลุ่ม G20 ระบุในแถลงการณ์ครั้งล่าสุดว่า อาจมีการพิจารณาต่ออายุโครงการบรรเทาหนี้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยพิจารณาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในปี 2561 เผยว่า ประเทศรายได้ต่ำ 59 ประเทศเป็นหนี้ประเทศจีน โดยคิดเป็นอัตราหนี้ต่อจีดีพีรวมของประเทศเหล่านี้ที่ 11.6% ในปี 2559 หรือประมาณสี่เท่าของที่ประเทศเหล่านี้เป็นหนี้ Paris Club
ขณะที่ในรายงานเมื่อเดือนที่แล้ว IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัว 4.9% ในปีนี้ ด้านธนาคารโลกคาดการณ์ว่าจะหดตัว 5.2% โดยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำเศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ The Great Depression หรือเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1930
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในตอนแรก รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลาง G20 จะจัดการประชุมสองวันในวันเสาร์และอาทิตย์นี้ ที่เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่เปลี่ยนมาเป็นประชุมครึ่งวันทางระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์แทน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
สำหรับการประชุมครั้งต่อไปมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 15-16 ต.ค.นี้ ในกรุงวอชิงตัน นอกรอบการประชุมประจำฤดูใบไม้ร่วงของ IMF และธนาคารโลก
กลุ่ม G20 ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป