“โควิด” เป็นปัจจัยทุบคะแนนนิยม ปธน.ทรัมป์ หนักที่สุด

01 พ.ย. 2563 | 23:37 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ย. 2563 | 07:17 น.

นักวิเคราะห์ชี้ ผลงานของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่คุมโควิดไม่อยู่ ส่งผลทำให้คะแนนสนับสนุนของเขาวูบลง แม้ในพื้นที่ฐานเสียงของเขาเอง

 

นักวิเคราะห์จากหลายสำนักรายงานว่า สถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผล สั่นคลอนฐานเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันใน ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่กำลังจะมีขึ้นใน วันที่ 3 พ.ย.นี้

“โควิด” เป็นปัจจัยทุบคะแนนนิยม ปธน.ทรัมป์ หนักที่สุด

นักวิเคราะห์จากเว็บไซต์ Vox รายงานว่า ผลสำรวจความเห็นของประชาชนในรัฐที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นนั้น เอนเอียงไปทางนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตมากกว่า แม้จะเป็นรัฐที่เลือกพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนหน้าก็ตาม

 

ผลสำรวจความเห็นต่าง ๆ ในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น 36% ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเชื่อว่านายไบเดนจะรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีกว่า โดยคะแนนความนิยมของปธน.ทรัมป์นั้นตามหลังนายไบเดนอยู่ระหว่าง 6.8%-17%

 

ขณะที่ในรัฐมิชิแกน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้น 73% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผลสำรวจต่างให้นายไบเดนมีคะแนนนำปธน.ทรัมป์ประมาณ 7-8 จุด

 

ทั้งนี้ รัฐวิสคอนซินและรัฐมิชิแกนต่างเป็น 2 รัฐที่ปธน.ทรัมป์ชิงคะแนนมาได้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2559

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เกาะติดเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2020

เลือกตั้งสหรัฐอเมริกากับการลงทุน

7ข้อต้องรู้ โค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งสหรัฐ 

 

ด้าน Change Research ซึ่งประเมินผลกระทบของโควิด-19 ต่อการเลือกลงคะแนนเสียงก็พบว่า ประชาชนที่ลงคะแนนเสียงให้ปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2559 และอยู่ในรัฐที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงกว่า มีแนวโน้มจะลงคะแนนเสียงให้นายไบเดนมากกว่าประชาชนในรัฐที่คุมโควิด-19 ได้แล้วถึง 50%

การหาเสียงโค้งสุดท้ายของปธน.ทรัมป์

อย่างไรก็ตาม แม้คะแนนนิยมจากโพลต่าง ๆอาจจะยังเป็นรองคู่แข่ง แต่ปธน.ทรัมป์ก็มุ่งหน้าหาเสียงในช่วง 2 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง โดยมีกำหนดหาเสียงถึง 10 ครั้งในช่วงโค้งสุดท้ายนี้หวังพลิกสถานการณ์ให้ดีขึ้น

 

รายงานระบุว่า ปธน.ทรัมป์จะลงหาเสียง 5 ครั้งในวันอาทิตย์ และอีก 5 ครั้งในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ตามเวลาสหรัฐ ในรัฐที่มีแนวโน้มจะเป็นรัฐตัดสินสำคัญว่าปธน.ทรัมป์ จะได้อยู่ในตำแหน่งต่อไปหรือไม่ หรือจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ดำรงตำแหน่งเพียงวาระเดียว นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ซึ่งพ่ายแพ้ต่ออดีตประธานาธิบดีบิล คลินตันจากพรรคเดโมแครตในปี 2535

 

สำหรับกำหนดการของปธน.ทรัมป์นั้น ในวันอาทิตย์ (เวลาท้องถิ่นสหรัฐ) มีกำหนดหาเสียงที่รัฐมิชิแกน ไอโอวา นอร์ธแคโรไลนา จอร์เจีย และฟลอริดา ส่วนในวันจันทร์จะไปที่รัฐนอร์ธ แคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน และอีก 2 ครั้งในรัฐมิชิแกน

ผลสำรวจชี้ ไบเดนมีคะแนนนิยมนำห่างทรัมป์ในระดับประเทศ แต่ระดับรัฐ ทั้งคู่ยังสูสี

ปธน.ทรัมป์จะจบการหาเสียงที่แกรนด์ ราปิดส์ รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับที่ปธน.ทรัมป์จบการหาเสียงเมื่อปี 2559 ซึ่งลงท้ายด้วยชัยชนะของปธน.ทรัมป์ หลังสามารถชิงคะแนนเสียงในรัฐมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครตมาหลายสิบปีมาได้

 

ทั้งนี้ ผลสำรวจความนิยมทั่วประเทศนั้น นายไบเดนมีคะแนนนำปธน.ทรัมป์อย่างชัดเจน แต่ผลสำรวจที่แยกในแต่ละรัฐ แสดงให้เห็นว่าคะแนนของทั้งคู่ยังคงใกล้เคียงกันอยู่