นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ (Pfizer Inc.) เปิดเผยวานนี้ (9 พ.ย.) ว่า บริษัทเตรียมยื่นขอจดทะเบียนวัคซีนดังกล่าวต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในสัปดาห์หน้า และเขาพร้อมจะเป็นคนแรกๆที่เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้นร่วมกับ บริษัท ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) เพื่อคลายความกังวลของผู้ที่ไม่มั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าว
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นบริษัทคาดว่า ความต้องการวัคซีนของบริษัทจะมากกว่าความสามารถในการผลิต ซึ่งบริษัทมีแผนผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ดังกล่าวจำนวน 50 ล้านโดสภายในปี 2563 นี้ และอีก 1.3 พันล้านโดสในปีหน้า (2564)
"ผมเชื่อว่านี่จะเป็นความคืบหน้าทางการแพทย์ครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 100 ปี นี่เป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ เมื่อคุณพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสูงถึง 90%" นพ.เบอร์ลากล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทันทีที่มีข่าวดีออกมาจากบริษัทไฟเซอร์ ทางสหภาพยุโรป (อียู) ก็ได้ประกาศเตรียมลงนามทำข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวนหลายร้อยล้านโดสจากไฟเซอร์ในทันที ซึ่งก่อนหน้านี้ ยังมีสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น ที่ได้ประกาศทำข้อตกลงซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จากไฟเซอร์ล่วงหน้าแล้วเช่นกัน
นายปีเตอร์ ลีส สมาชิกรัฐสภาอียู เปิดเผยว่า ทางอียูจะมีการลงนามในข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จากบริษัทไฟเซอร์ในเร็ว ๆนี้ จำนวนหลายร้อยล้านโดส
ถ้อยแถลงของนายลีสมีขึ้นหลังจากที่ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และไบโอเอ็นเทค ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี แถลงว่า ผลการทดลองบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อนได้มากกว่า 90%
ไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทค ระบุว่า ผลการพัฒนาวัคซีนดังกล่าวถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ "ผมคิดว่าเราสามารถเห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์แล้ว" นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานบริษัทไฟเซอร์กล่าว
ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์คาดหวังว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะมีประสิทธิภาพอย่างน้อย 75% ขณะที่นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว เคยกล่าวว่า หากวัคซีนมีประสิทธิภาพ 50-60% ก็ถือว่ายอมรับได้แล้ว