จีนจดสิทธิบัตรการผลิตวัคซีน ซึ่งเป็น วัคซีนป้องกันโควิด-19 ชนิดใช้อะดิโนไวรัสเป็นตัวนำพา พร้อมเร่งสร้างโรงงานเพื่อสามารถผลิตปริมาณมาก หากผ่านการทดลองทางคลินิกและได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ
สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานวานนี้ (28 ธ.ค.) ว่า ผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดใช้อะดิโนไวรัสเป็นตัวนำพาของจีน เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการวิจัยและพัฒนาวัคซีนชนิดดังกล่าวว่า หลังจากการทดลองในสัตว์เสร็จสิ้นลงแล้ว ขณะนี้มีความพร้อมสำหรับการทดลองในมนุษย์ทั้งในจีนและในต่างประเทศ
คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิงหัว มหาวิทยาลัยการแพทย์เทียนจิน และบริษัทวาลแว็กซ์ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในนครคุนหมิง ได้เริ่มพัฒนาวัคซีนชนิดดังกล่าว ตั้งแต่ช่วงที่โรคโควิด-19 เริ่มระบาด โดยใช้เลือดลิงชิมแปนซีในการผลิต
นายจางหลินฉี หัวหน้านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิงหัว เปิดเผยว่า โดยทั่วไปแล้วร่างกายมนุษย์จะไม่มีแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ต่อไวรัสไข้หวัดของลิงซิมแปน (chimpanzee adenovius) อยู่แต่เดิม ทำให้ข้อดีของวัคซีนที่มีไวรัสดังกล่าวเป็นพาหะคือ มีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ในระดับต่ำ มีกำลังการผลิตสูง และผู้ได้รับวัคซีนจะมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงภายหลังการฉีดวัคซีน
ปัจจุบัน คณะผู้ผลิตทำการทดสอบวัคซีนชนิดใช้อะดิโนไวรัสเป็นตัวนำพาในสัตว์เสร็จสิ้นแล้ว และกำลังยื่นเรื่องเข้าสู่กระบวนการทดลองในมนุษย์ทั้งในจีนและต่างประเทศ
“วัคซีนนี้ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรงในสัตว์" จางกล่าว พร้อมเสริมว่าผลวิจัยทางคลินิกได้สนับสนุนความปลอดภัยของวัคซีนชนิดนี้ และบ่งบอกว่าวัคซีนมีศักยภาพสำหรับการทดสอบทางคลินิกเพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ การทดลองทางคลินิกระยะที่3 เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของวัคซีนจะมีขึ้นในพื้นที่ที่เกิดการระบาดใหญ่ในต่างประเทศ “เช่นเดียวกับวัคซีนโรคโควิด-19 ชนิดอื่นของจีน เรากำลังเผชิญสถานการณ์ที่จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19ในจีนนั้นมีไม่เพียงพอต่อการเข้าร่วมการทดลองระยะที่ 3"
ในวันเดียวกันนั้น (27 ธ.ค.) ในเขตต้าชิงของกรุงปักกิ่ง จีนยังได้เปิดตัวฐานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งสำหรับผลิตวัคซีนชนิดใช้อะดิโนไวรัสป็นตัวนำพาซึ่งผ่านจดสิทธิบัตรแล้ว โดยวัคซีนหล่านี้จะเข้าสู่กระบวนการผลิตขนานใหญ่ที่ฐานการผลิตแห่งนี้ หลังผ่านการทดลองและได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพ
แถลงการณ์ระบุว่า โรงงานผลิตวัคซีนโรคโควิด-19 อยู่ระหว่างการก่อสร้างในปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่า วัคซีนจะออกวางจำหน่ายในตลาดได้ช่วงกลางปีหน้า (พ.ศ. 2564 หรือค.ศ. 2021) โดยกำลังการผลิตวัคซีนจะอยู่ที่มากกว่า 200 ล้านโดสต่อปี
อนึ่ง เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) เผยเมื่อต้นเดือนธ.ค.นี้ ว่า ปัจจุบันวัคซีนซึ่งเป็นผลการวิจัยและผลิตโดยบริษัทหรือหน่วยงานของจีนมีจำนวน 5 รายการ ที่ได้เข้าสู่การทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการทดลองระยะสุดท้ายแล้ว โดยหนึ่งในนั้นก็คือวัคซีนชนิดใช้อะดิโนไวรัสเป็นตัวนำพาตัวหนึ่งซึ่งพัฒนาโดยสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารและบริษัท แคนซิโน ไบโอโลจิกส์