“ฐานเศรษฐกิจ” ได้ ประมวลทุกเหตุการณ์สำคัญ ก่อนจะมาถึงเส้นชัยในวันนี้ของว่าที่ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 เอาไว้ที่นี่ รวมทั้งเรื่องราวหลากประเด็นที่จะทำให้เรารู้จักผู้นำคนใหม่ของสหรัฐคนนี้มากยิ่งขึ้น
พิธีสาบานตนที่แตกต่างไปจากเดิม
นายโจ ไบเดน เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ก่อนที่จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 20 ม.ค. เวลาเที่ยงตรงตามเวลาสหรัฐ ซึ่งตรงกับเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันเดียวกัน ตามเวลาประเทศไทย
ปัญหาทางการเมืองรวมทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้พิธีสาบานตนของประธานาธิบดีสหรัฐในครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งไหน ๆ ในประวัติศาสตร์ของชาวอเมริกัน การไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นอดีตประธานาธิบดี และการระดมมวลชนผู้สนับสนุนออกมาเดินขบวนประท้วง ก่อเหตุจลาจล และบุกเข้าอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน ทำให้วันนี้ ภายในกรุงวอชิงตันมีกองกำลังรักษาความปลอดภัยประจำการอยู่ถึง 25,000 นาย ซึ่งมากกว่าพิธีสาบานตนครั้งก่อนๆ ถึง 2.5 เท่า บรรยากาศโดยรวมจึงแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับพิธีสาบานตนครั้งที่ผ่าน ๆมาในสถานการณ์ปกติที่มักจะเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองและไมตรีจิตทางการเมือง
อีกสิ่งที่แตกต่างชัดจากธรรมเนียมเดิม คือบริเวณเนชั่นแนล มอลล์ ใจกลางกรุงวอชิงตัน ดีซี ที่ปกติจะเปิดให้ประชาชนหลายพันคนหลั่งไหลมาเฝ้าชมพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนใหม่ ครั้งนี้ถูกสั่งปิดพื้นที่ ทั้งเพื่อความปลอดภัยจากเหตุจลาจลหรือการก่อความไม่สงบ และเพื่อความปลอดภัยจากโควิด-19 ด้วย
ทีมงานของนายโจ ไบเดน ขอความร่วมมือให้ชาวอเมริกันหลีกเลี่ยงการเดินทางมายังเมืองหลวงเพื่อร่วมพิธีสำคัญดังกล่าว แต่ให้ชมทางทีวีหรือสื่อออนไลน์อื่น ๆ แทน ความครื้นเครงของบรรยากาศเฉลิมฉลองเช่นในปีที่ผ่านๆ มา จึงถูกลดทอนลงไปไม่ใช่น้อย
ค่ำคืนก่อนวันเข้าพิธีสาบานตน นายไบเดนจะค้างคืนที่ “แบลร์เฮาส์” ซึ่งเป็นบ้านพักรับรองแขกใกล้ๆ กับทำเนียบขาว โดยเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ยืดถือกันมาตลอด
ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่กำลังจะหมดวาระ ได้ปฏิเสธที่จะเชิญครอบครัวของนายไบเดนมายังทำเนียบขาวก่อนวันทำพิธี แม้ว่าสมัยที่ตัวเองจะเป็นประธานาธิบดีนั้น ครอบครัวของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ก็เคยเชิญครอบครัวของทรัมป์มาที่ทำเนียบขาว
สถิติใหม่ ๆ “ครั้งแรก” และ “ที่สุด”
ประวัติศาสตร์สหรัฐยังจะต้องจารึกสถิติใหม่ ๆ เกี่ยวกับพิธีสาบานตนครั้งนี้ ทั้งในแง่เหตุการณ์ “แรก” และเหตุการณ์ “ที่สุด” เช่นนายโจ ไบเดน จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่ทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในขณะที่มีอายุมากที่สุด คือ 78 ปี และนางคามาลา แฮร์ริส ก็จะเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรก อีกทั้งยังเป็นรองประธานาธิบดีผิวสีคนแรกที่เป็นลูกครึ่งเอเชียใต้อีกด้วย
นอกจากนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกนับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีคนถัดไปด้วย ข่าวระบุว่า ในวันทำพิธีสาบานตนของนายโจ ไบเดน ทรัมป์จะออกเดินทางโดยเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซวันเป็นเที่ยวบินสุดท้ายไปยังรีสอร์ทมาร์-อา-ลาโกของเขาในรัฐฟลอริดา ซึ่งที่นั่น เขาจะถ่ายทอดสดชีวิตของเขาหลังลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐและยังเป็นที่คาดหมายว่าอาจจะมีการประกาศลงเลือกตั้งประธานาธิบดีใน 4 ปีข้างหน้าด้วย
ทำความรู้จัก "โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 46
เปิดนโยบายช่วงหาเสียงของ "โจ ไบเดน"(Joe Biden)
เจ็บจนแกร่ง กว่าจะถึงวันนี้ไม่มีอะไรง่าย
ชาวอเมริกันแห่ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทะลุ 95 ล้านคน
คะแนนสูสีตั้งแต่จุดสตาร์ท การเลือกตั้งที่ต้องจดจำไปอีกนาน
นายโจ ไบเดน ชนะคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) อย่างเป็นทางการแล้ว
ม็อบหนุนทรัมป์นับพันบุกคองเกรส สหรัฐประกาศเคอร์ฟิวเมืองหลวง
คองเกรสรับรองชัยชนะ "ไบเดน"อย่างเป็นทางการ
ถอดรหัสจากโพล: คนกลุ่มไหนเทใจหนุน “ไบเดน”
ประเด็นสำคัญที่คนคาดหวังจากปธน.คนใหม่
เปรียบมวย “นโยบาย” ทรัมป์ vs ไบเดน หมัดต่อหมัด
เลือกตั้งสหรัฐ 2020 "ทรัมป์" คือผู้พ่ายแพ้ Popular Vote สูงสุดในประวัติศาสตร์
"โจ ไบเดน" ทุบสถิติ "ป๊อปปูลาร์โหวต" สูงสุดในประวัติศาสตร์
ประวัติ "โดนัลด์ ทรัมป์" ในมุมที่น่ารู้จัก
นักวิชาการเชื่อไบเดนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ดีกับไทย
วิเคราะห์นโยบายรัฐบาล 'โจ ไบเดน' ต่อเอเชีย เหมือนเดิมหรือเปลี่ยนไป?
ชำแหละ 8 ข้อหลังเลือกตั้งสหรัฐได้บทสรุป