แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของออสเตรเลียกล่าววานนี้ (10 ก.พ.) ว่า การพบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าเดิมนั้น มีโอกาสเกิดขึ้นได้อีก หากมีการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในบางพื้นที่โดยที่ไม่สามารถตรวจพบ ขณะที่หลายประเทศกำลังเดินหน้า โครงการฉีดวัคซีน อยู่ในขณะนี้
ผู้เชี่ยวชาญระบุใน ที่ประชุม National Press Club ที่กรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลียเมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) ว่า โลกอาจต้องใช้เวลาถึง 6 ปีใน การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ได้ถึงระดับที่เรียกได้ว่ามีภูมิคุ้มกันหมู่ หรือครอบคลุมประมาณ 75 % ของประชากรทั้งหมด ซึ่งจะทำให้การแพร่ระบาดไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในจำนวนมากอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังต้องฉีดวัคซีนให้กระจายครอบคลุมประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่เกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 ที่มีความรุนแรงกว่าเดิม
นายแพทย์ซันจายา เซนานาเยก ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทั่วโลกมีประมาณ 70 ประเทศที่ได้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว
"ด้วยอัตราการฉีดวัคซีนในปัจจุบันนั้น ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ในเวลาประมาณ 6 ปีนับจากนี้ การฉีดวัคซีนโควิด-19 จะยังไม่ครอบคลุม 75% ของประชากรโลกทั้งหมด"
อย่างไรก็ตาม หากเรายังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนทั่วโลกไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้ตรวจสอบบางพื้นที่ เราก็อาจจะได้เห็นโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดขึ้นมาอีก และอาจมีผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนในอนาคต
นอกจากนี้ นายแพทย์ซันจายายังระบุด้วยว่า ประชากรโลกอาจต้องลงเอยที่การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19แบบปีต่อปี และโควิดอาจกลายเป็นโรคที่พบได้ปกติ เช่นเดียวกับไวรัสโคโรนาอีก 4 สายพันธุ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายสิบปีก่อนหน้านี้ และมีอาการเหมือนไข้หวัดธรรมดา
"โรคโควิด-19 อาจระบาดเป็นช่วงๆ ซึ่งจะทำให้มีคนติดเชื้อและเสียชีวิตทุกปี แต่คนที่ฉีดวัคซีนแล้วจะปลอดภัย"นายแพทย์ซันจายากล่าวสรุป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง