"เฟซบุ๊ก" แจงเหตุปิด 185 บัญชีเกี่ยวข้องปฏิบัติการ IO กองทัพไทย

03 มี.ค. 2564 | 22:24 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มี.ค. 2564 | 07:46 น.

เป็นครั้งแรกที่ "เฟซบุ๊ก" ดำเนินการปิดบัญชีผู้ใช้ของไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลและปฏิบัติการ IO ของกองทัพไทย เนื่องจากเข้าข่ายพฤติกรรมหลอกลวง

บริษัท เฟซบุ๊ก อิงค์ แถลงวานนี้ (3 มี.ค.) ว่าบริษัทได้ ลบบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก จำนวน 185 บัญชีที่มีความเกี่ยวข้องกับ ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ (Information Operation: IO) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กได้ดำเนินการปิดบัญชีผู้ใช้ของไทยที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลไทย

ทั้งนี้ หากลงในรายละเอียดจะพบว่า เฟซบุ๊กได้ลบ 77 บัญชี, 72 เพจ และ 18 กลุ่มออกจากเฟซบุ๊ก และลบ 18 บัญชีบนอินสตาแกรมที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายปฎิบัติการไอโอของกองทัพไทย โดยเฟซบุ๊กมีเป้าหมายต้องการขจัด “พฤติกรรมหลอกลวงที่กระทำกันเป็นกลุ่มหรือร่วมมือกัน” บนแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ค บริษัทระบุว่า บัญชีเหล่านี้เชื่อมโยงกับกองทัพไทยและเล็งเป้าหมายผู้ชมหรือผู้รับข่าวสารที่อยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งและเหตุการณ์ความไม่สงบ รวมทั้งกลุ่มก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน มาเป็นระยะเวลายาวนานหลายทศวรรษ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าได้ติดต่อเพื่อสอบถามเรื่องนี้แต่โฆษกของกองทัพได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเนื่องจากเป็นนโยบายที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้ข่าวนอกเหนือจากการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ   

\"เฟซบุ๊ก\" แจงเหตุปิด 185 บัญชีเกี่ยวข้องปฏิบัติการ IO กองทัพไทย

นายนาธาเนียล ไกลเชอร์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายความมั่นคงทางไซเบอร์ของเฟซบุ๊กเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า  นี่เป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กลบบัญชีที่เกี่ยวข้องกับกองทัพไทย และพบความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างการใช้ปฏิบัติการไอโอนี้ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) “เราพบว่าบัญชีและกลุ่มเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกันและเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการไอโอ”

ไกลเชอร์ยังระบุว่า เครือข่ายดังกล่าวส่วนใหญ่เริ่มใช้งานบนเฟซบุ๊กตั้งแต่ปี 2563 มีการใช้ทั้งบัญชีปลอมและบัญชีจริงของตัวเองจัดการหน้าเพจทั้งที่เป็นเพจส่วนบุคคลและเพจกลุ่ม ซึ่งมีทั้งที่แสดงตัวตนอย่างชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับกองทัพและที่ไม่ได้เปิดเผย บางบัญชีปลอมเปิดใช้ในนามบุคคลที่ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ระบุว่าเป็นบุคคลจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ ทางเครือข่ายยังใช้เงินในการโฆษณาทั้งบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมไปแล้วราว 350 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10,500 บาท

บางเพจในเครือข่ายนี้มีผู้ติดตามราว 700,000 ราย และบางเพจที่เป็นเพจกลุ่มก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่น ๆมาเข้าร่วมกลุ่มถึง 100,000 ราย

นายไกลเชอร์กล่าวว่า การถอดบัญชีเหล่านี้ออกจากระบบของเฟซบุ๊กเป็นผลมาจากพฤติกรรมที่เข้าข่ายหลอกลวง (deceptive behaviour) ไม่ใช่เนื้อหาที่โพสต์ ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการสนับสนุนทหารและสถาบันฯ รวมถึงการโจมตีว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเป็นฝ่ายสร้างความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้

ก่อนหน้านี้ในเดือนต.ค.2563 สื่อโซเชียลมีเดียยอดนิยมอีกราย คือ  ทวิตเตอร์ ได้เคยปิด 926 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการไอโอของกองทัพไทยมาแล้ว ซึ่งในครั้งนั้น กองทัพได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับบัญชีเหล่านั้น

ข่าวระบุว่า เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) เฟซบุ๊กยังได้ปิดบัญชีของ 4 เครือข่ายของรัฐบาลอิหร่าน รัสเซีย และโมรอกโกด้วย โดยระบุว่าในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ถอดเครือข่ายที่มีพฤติกรรมหลอกลวงนี้ออกจากสารรบบของเฟซบุ๊กไปแล้วมากกว่า 100 เครือข่ายทั่วโลก

 

ข้อมูลอ้างอิง

Facebook removes Thai military-linked information influencing accounts

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ก้าวไกล” ขยี้ประเด็น IO หมดเวลานายกฯ “ไม่รู้-ไม่เห็น-ไม่มี-ไม่ใช่”

คำต่อคำ"บิ๊กช้าง" แจงข้อกล่าวหา"IO" ยันนายกฯไม่มีนโยบายสั่งการ

ข้อเท็จจริงไอโอ(IO) ปฏิบัติการข่าวสาร ในมุมกองทัพคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

ทบ.ยัน ไร้จ้างเอกชนทำ IO แจง เอกสารทำทวิตเตอร์ว่อนโซเชียลเป็นแค่งานพัฒนาสื่อออนไลน์