จีนรับปากดันอินโดฯเป็นศูนย์กลางผลิตวัคซีนในภูมิภาค

20 เม.ย. 2564 | 22:13 น.
อัปเดตล่าสุด :21 เม.ย. 2564 | 06:31 น.

ผู้นำจีนพร้อมขับเคลื่อนความร่วมมือกับอาเซียน โดยให้คำมั่นจะผลักดัน “อินโดนีเซีย” เป็นศูนย์กลางการผลิตวัคซีนในภูมิภาคและเพิ่มความร่วมมือด้านการลงทุน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน กล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์กับ ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซียวานนี้ (20 เม.ย.)  ว่า รัฐบาลจีนจะให้ ความร่วมมือทางด้านวัคซีน กับอินโดนีเซีย โดยจะผลักดันให้อินโดนีเซียเป็น “ศูนย์กลาง” ในการผลิตวัคซีนในภูมิภาค

ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง (ภาพจากแฟ้มภาพ)

 ผู้นำจีนกล่าวย้ำว่า จีนและอินโดนีเซียให้ความสำคัญต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชน และจะต่อต้านลัทธิชาตินิยมเกี่ยวกับวัคซีน

ทั้งนี้ ปธน.สี ระบุว่า แผนการฉีดวัคซีนของจีนนั้นครอบคลุมรวมไปถึงชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินจีน ซึ่งรวมทั้งผู้ที่มาจากอินโดนีเซีย ทางรัฐบาลจีนจึงหวังว่าอินโดนีเซียจะให้การสนับสนุนต่อชาวจีนในอินโดนีเซียเช่นกัน

ผู้นำของจีนยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลจีนจะสนับสนุนให้ภาคเอกชนของจีนเพิ่มการลงทุนในอินโดนีเซีย ทั้งนี้เห็นว่าจีนและอินโดนีเซียควรเพิ่มความร่วมมือทั้งทางด้านคุณภาพและปริมาณ โดยทั้งสองฝ่ายควรผลักดันโครงการต่างๆด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงกรุงจาการ์ตาและเมืองบันดุง ขณะเดียวกัน ปธน.สียังได้สนับสนุนให้อินโดนีเซียเพิ่มการส่งออกสินค้าคุณภาพสูงไปยังจีนด้วย

นอกจากนี้ ปธน.สียังระบุว่า ประเทศทั้งสองควรผลักดันเพื่อให้มีการบังคับใช้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP ที่ทางสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) 10 ประเทศ และคู่เจรจา 5 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ลงนามกันเอาไว้ในเดือนพ.ย. 2563 เพื่อให้ประชาชนของชาติสมาชิกได้รับประโยชน์จาก RCEP ที่ถือเป็นเขตการค้าเสรีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสัดส่วนตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รวมกันสูงถึง 30% ของ GDPโลก และครอบคลุมประชากรโลกราว 1 ใน 3 ของทั้งหมด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง