WHO ตรวจพบร่องรอยไวรัสโควิดสายพันธุ์อินเดีย "B.1.617" แล้วอย่างน้อยใน 17 ประเทศทั่วโลก

28 เม.ย. 2564 | 01:50 น.
อัปเดตล่าสุด :28 เม.ย. 2564 | 09:08 น.

องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุมีการตรวจพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์อินเดีย หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า "บี.1.617" ใน 17 ประเทศแล้วเป็นอย่างน้อย  

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ซึ่งเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (27 เม.ย.) โดยเน้นไปที่ สายพันธุ์อินเดีย "บี.1.617" มีการตรวจพบในรหัสพันธุกรรมอย่างน้อย 1,200 ตัวอย่างจากอย่างน้อย 17 ประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในอินเดียเอง นอกนั้นยังพบในอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ เป็นต้น

แม้ WHO จะเคยกล่าวถึงเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ในอินเดียว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่าสนใจ แต่ยังไม่ได้ระบุว่า "เป็นสายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวล" โดยในทางทฤษฎีถือว่า หาก WHO นิยามเชื้อไวรัสใดว่า "น่าวิตกกังวล" หมายความได้ว่า เชื้อไวรัสนั้นมีความอันตรายมากกว่าเชื้อไวรัสประเภทเดียวกัน แพร่ระบาดง่ายกว่า ทำให้เกิดอาการป่วยที่มีความรุนแรงมากกว่า นอกจากนี้ ไวรัสกลายพันธุ์ยังสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากวัคซีน และการติดเชื้อซ้ำ

ทั้งนี้ เชื้อไวรัสโควิดชนิดกลายพันธุ์ในอินเดีย หรือ สายพันธุ์อินเดีย มีการกลายพันธุ์ร่วมที่ตำแหน่ง E484Q และ L452R บางครั้งจึงถูกเรียกว่า ไวรัสกลายพันธุ์คู่ ซึ่งลักษณะดังกล่าวคาดว่าทำให้เชื้อมีความสามารถในการหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น และเมื่อเชื้อดังกล่าวสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของมนุษย์ได้ดีก็อาจจะส่งผลให้มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้น และระบาดได้มากขึ้น รวมไปถึงประสิทธิภาพของวัคซีนก็อาจจะลดลง

รายงานของ WHO ยังระบุด้วยว่า พบความบ่งชี้ที่ว่าเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ บี1617 จะแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วมากกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่น ๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง