สหรัฐเปิดแผนแบ่งปันวัคซีนส่วนเกิน 80 ล้านโดส

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศที่ทำเนียบขาว วานนี้ (3 มิ.ย.) ชี้แจงกรอบ แผนแบ่งปันวัคซีนส่วนเกินของสหรัฐ ล็อตแรก ๆ จากทั้งหมด 80 ล้านโดส ที่จะกระจายให้กับประเทศต่าง ๆทั่วโลกก่อนเดือนก.ค.นี้  โดยในจำนวนนี้ 75% จะมอบผ่าน โครงการโคแว็กซ์ (COVAX) ของ องค์การอนามัยโลก (WHO)

ความเคลื่อนไหวของสหรัฐครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ถูกนานาชาติกดดันให้สหรัฐเจียดวัคซีนส่วนเกินออกมาช่วยเหลือประเทศอื่น ๆ ที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ หลังจากที่สหรัฐเอง มีความคืบหน้าอย่างมากในโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน

ทำเนียบขาวระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่สหรัฐจะแบ่งปันผ่านโครงการโคแว็กซ์นั้น ประเทศที่เป็นปลายทาง รัฐบาลสหรัฐจะให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ กับประเทศในภูมิภาคละตินอเมริกาและแคริบเบียน เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงแอฟริกา

"เรากำลังแบ่งปันวัคซีนเหล่านี้โดยไม่ได้หวังให้เป็นที่ชื่นชมหรือบีบให้ใครยอมอ่อนข้อต่อสหรัฐ" ถ้อยแถลงของไบเดนระบุ "เรากำลังแบ่งปันวัคซีนเหล่านี้เพื่อปกป้องชีวิต และนำพาโลกสู่จุดสิ้นสุดของโรคระบาดใหญ่ ด้วยพลังแห่งการเป็นแบบอย่างของเรา และด้วยพลังแห่งค่านิยมอันเป็นอุดมคติของสหรัฐอเมริกา"

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี ไบเดนเคยประกาศส่งออกวัคซีนโควิด-19 จำนวน 60 ล้านโดสแก่ประเทศต่างๆทั่วโลก จากนั้นก็ปรับเพิ่มเป็น 80 ล้านโดส

เจฟฟรีย์ ไซเอนท์ส ผู้ประสานงานโครงการรับมือวิกฤตโควิด-19 ประจำทำเนียบขาว กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กระบวนการส่งออกวัคซีน 25 ล้านโดสแรกอยู่ระหว่างดำเนินการ "เราจะส่งมอบวัคซีน 80 ล้านโดสตามคำสัญญาของประธานาธิบดีภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้"

เขาบอกว่าวัคซีนล็อตแรกจะมาจากคลังวัคซีนของรัฐบาลกลาง และจะประกอบด้วยวัคซีน 3 ตัวที่ได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐแล้ว ได้แก่ วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน วัคซีนโมเดอร์นา และวัคซีนไฟเซอร์-บิออนเทค ส่วนวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ยังไม่ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานของสหรัฐ แม้จะมีใช้ในประเทศอื่นๆแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ โครงการโคแวกซ์ เป็นความร่วมมือระหว่างระหว่างองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนกาวี (Gavi) องค์การอนามัยโลก (WHO) และกลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด มีความตั้งใจมอบวัคซีนแก่ประชาชนของประเทศและดินแดนต่างๆที่ยากจนที่สุด 92 ประเทศจากทั้งหมดที่เข้ารวมในโครงการ ให้ได้สัดส่วนราว ๆ 30% ของจำนวนประชากรในประเทศและดินแดนเหล่านั้น ในจำนวนนี้ 20% อยู่ในอินเดีย โดยที่ผู้บริจาคจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด

โฆษกองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนกาวี แสดงความยินดีต่อท่าทีของสหรัฐในเรื่องนี้ ขณะที่นายเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวขอบคุณเป็นอย่างสูงต่อความคลื่อนไหวของสหรัฐครั้งนี้

เมื่อลงลึกในรายละเอียดพบว่า ตามแผนของสหรัฐ ในจำนวนวัคซีน 25 ล้านโดสแรก นั้น

• ราว 7 ล้านโดสจะถูกจัดสรรแก่ภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอินเดีย เนปาล บังกลาเทศ อัฟกานิสถาน เวียดนาม รวมทั้งประเทศไทย
• ประมาณ 6 ล้านโดส จะแบ่งปันให้ประเทศต่าง ๆในแถบอเมริกาใต้ อเมริกากลาง และแคริบเบียน ในนั้นรวมถึงบราซิล อาร์เจนตินา โคลัมเบีย คอสตาริกาและเฮติ
• อีกราว 5 ล้านโดส สงวนไว้ให้ทวีปแอฟริกา และจะแจกจ่ายภายใต้ความร่วมมือกับสหภาพแอฟริกา
• จากนั้น อีกราวๆ 6 ล้านโดสที่เหลือจะแบ่งปันโดยตรงกับประเทศต่าง ๆ ที่ประสบกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงหรือกำลังอยู่ในวิกฤต เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านของสหรัฐ อย่างแคนาดาและเม็กซิโก (ที่ก่อนหน้านี้ ได้รับการแจกจ่ายวัคซีนจากสหรัฐแล้วจำนวน 4.5 ล้านโดส)  รวมถึงคู่หูระดับประเทศพันธมิตรทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ยูเครน กาซา หรืออิรัก

จนถึงตอนนี้โครงการโคแว็กซ์ ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อรับประกันการแจกจ่ายวัคซีนอย่างเท่าทียม ได้มอบวัคซีนแก่ประเทศและดินแดนต่างๆแล้วเกือบ 80 ล้านโดส ในนั้น 97% เป็นวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า ส่วนที่เหลือเป็นวัคซีนของไฟเซอร์-บิออนเทค

ข้อมูลอ้างอิง

• White House lays out plan to share millions of Covid doses with poorer nations

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สหรัฐ ยอมคายวัคซีนแอสตร้า 60 ล้านโดสแบ่งปันประเทศอื่น
• ยูเอ็นยอมรับปัญหาการกระจายวัคซีนต้านโควิดทำประเทศยากจนเข้าไม่ถึงวัคซีน
• หวั่นประเทศยากจนหมดสิทธิซื้อวัคซีนโควิด เหตุชาติร่ำรวยกักตุนมากเกินพอ