ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ระบุวานนี้ (7 มิ.ย.) ว่า สหรัฐอเมริกา มี ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เฉลี่ย 14,410 รายต่อวันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขเฉลี่ยต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมี การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐ มีจำนวนต่ำกว่า 15,000 รายเป็นเวลา 3 วันติดต่อกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยต่อวันลดลง 5% หรือมากกว่านั้นใน 44 รัฐเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐได้ปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ชาวอเมริกันทั่วประเทศแล้วจำนวนมากกว่า 300 ล้านโดส (ตัวเลขยืนยันคือ 301,638,578 โดส) หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยการฉีดวันละ 960,000 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ชาวอเมริกันจำนวน 51.5 % ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ขณะที่ 41.9 % ได้รับการฉีดครบโดสแล้ว
ข้อมูลล่าสุด (6 มิ.ย.) จาก ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ ซีดีซี (Centers for Disease Control and Prevention) ระบุว่า ยอดการติดเชื้อใหม่รายวันนั้นได้ลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ที่สหรัฐพบรายงานผู้ติดเชื้อโควิดรายแรกในเดือนมี.ค. 2563
สหรัฐปรับกฎเกณฑ์ให้ประชาชนที่มีสิทธิ์ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีอายุน้อยลงมา โดยนับตั้งแต่เดือน พ.ค. เป็นต้นมา ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีน
อย่างไรก็ตาม นายแพทยแอนโทนี ฟอซี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว และผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ (NIAID) ได้ออกมาติงเตือนว่า ความประมาทเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนอาจจะนำมาสู่การแพร่ระบาดที่พุ่งขึ้นระลอกใหม่ โดยเฉพาะในภาวะที่มีการลุกลามของไวรัสโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ ๆ สถานการณ์เช่นนี้อาจนำสหรัฐกลับไปสู่การใช้มาตรการล็อกดาวน์ได้อีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง