มิวเซียมสยาม จับมือ ททท. เปิดแคมเปญ “เที่ยวครบตบรางวัล มหัศจรรย์เมืองเหนือ” หนุนสร้างเทรนด์การเรียนรู้เปิดประสบการณ์ 50 แหล่งท่องเที่ยวภาคเหนือ ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน มิวเซียมไทยแลนด์ แลกบัตรเติมน้ำมัน มูลค่าสูงสุด 2,000 บาท พร้อมเปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวภาคเหนือ ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง
นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) กล่าวว่า แคมเปญเที่ยวครบตบรางวัล มหัศจรรย์เมืองเหนือ (Amazing Stories of North) เป็นกิจกรรมที่ต้องการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ เกิดความสนใจการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้มากขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมกิจกรรม สามารถดาวน์โหลดโมบายแอปพลิเคชัน มิวเซียมไทยแลนด์ (Museum Thailand) และถ่ายรูปเช็คอินกับพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ภาคเหนือที่ร่วมกิจกรรมจำนวน 50 แห่ง เมื่อสะสมครบ 5 ครั้งจะได้บัตรเงินสดเติมน้ำมัน มูลค่า 500 บาท ครบ 10 คะแนน ได้บัตรเงินสดเติมน้ำมัน มูลค่า 1,000 บาท และเมื่อครบ 15 คะแนน ได้บัตรเงินสดเติมน้ำมัน มูลค่าสูงสุด 2,000 บาท โดยจะเปิดให้แลกคะแนนในแอปพลิเคชันมิวเซียมไทยแลนด์ ระหว่างวันที่ 16 - 27 กันยายน 2562 และจะเริ่มจัดส่งบัตรเติมน้ำมันให้กับผู้ที่ร่วมกิจกรรมตามเงื่อนไขดังกล่าวถึงบ้านทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ ในวันที่ 30 กันยายน 2562
สำหรับผู้ที่ถือบัตรมิวพาส ซีซั่น 7 สามารถเข้าชมฟรีใน 5 พิพิธภัณฑ์ที่ร่วมโครงการ ได้แก่ 1. พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม จ.เชียงใหม่ 2. อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ 3. อาร์ต อิน พาราไดซ์ เชียงใหม่ 4. พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี จ.ลำปาง 5. พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี จ.พิษณุโลก โดยบัตรมิวพาส ซีซั่น 7 จำหน่ายในราคาเพียง 299 บาท มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ที่ร่วมโครงการ พร้อมส่วนลดร้านอาหาร เครื่องดื่ม และของที่ระลึก ตามแหล่งเรียนรู้ รวมมูลค่ากว่า 4,000 บาท เริ่มจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 โดยบัตรมีอายุการใช้งาน 1 ปี นับจากวันที่ใช้บริการครั้งแรก ทั้งนี้ ต้องเปิดใช้บริการครั้งแรกไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2562 มีจำหน่ายที่พิพิธภัณฑ์ที่เข้าร่วม 32 แห่ง KTC Touch 23 แห่ง ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น (7-11) ทุกสาขา สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เคาน์เตอร์จำหน่ายบัตร บริษัท เจ้าพระยาทัวร์ริสโบท จำกัด (ท่าสะพานตากสิน ท่ายอดพิมาน และท่ามหาราช) นอกจากนี้ ยังจำหน่ายทางออนไลน์ผ่านทาง KTC World Travel Service เว็บไซต์ Museum Siam และผ่านแอปพลิเคชันมิวเซียมไทยแลนด์ (Museum Thailand)
นายวิศรุต อินแหยม ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า เส้นทางท่องเที่ยวในภาคเหนือเป็นเส้นทางที่มีเรื่องน่าเรียนรู้มากมาย การเดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มครอบครัวและคนรุ่นใหม่ นักท่องเที่ยวจะได้เปิดมุมมองการเที่ยวแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญา วิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ โดยสามารถจัดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ทั้งเมืองหลักเมืองรอง ได้แก่
1. เชียงใหม่
เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่เดินทางสะดวก มีกิจกรรมที่เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบครัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นวันใหม่ ด้วยการกราบนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จากนั้นเดินชิลต่อในสวนดอกไม้นานาชนิดทั่วทุกมุมโลก บนเนื้อที่กว่า 500 ไร่ในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตระเวนชิมข้าวซอยรสเด็ด ร้านเล็กร้านใหญ่เลือกชิมได้ตามใจ จากนั้นไปดื่มด่ำกับงานศิลปะร่วมสมัยทั้งไทยและอาเซียนกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม แล้วไปโพสท่าถ่ายรูปเช็คอินจบทริปที่พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติในอาร์ต อิน พาราไดซ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางตามรอยทริปนี้ได้ใน 1 วัน
2. ลำปาง
ชมเมืองลำปางบนรถม้าสุดคลาสสิค พร้อมย้อนรอยไปกับตำนานต้นกำเนิดชามไก่นครลำปาง ภายในพิพิธภัณฑ์เซรามิกธนบดี ชมการสาธิตกระบวนการผลิตจากอดีตถึงปัจจุบัน จากนั้นไปคลายร้อนกันต่อที่น้ำตกแจ้ซ้อน น้ำตก 6 ชั้นที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี แล้วไปชิมยำไข่น้ำแร่ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตกเย็นไปเดินเล่นที่กาดกองต้า ถนนคนเดินในเมืองที่เต็มเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ พร้อมวิวชมพระอาทิตย์ตกดินที่พร้อมจะสะกดทุกสายตาที่สะพานรัษฎาภิเศก ซึ่งนักท่องเที่ยวที่อินกับบรรยากาศความเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์ สามารถเลือกที่พักสักแห่งเพื่อเที่ยวต่อในวันถัดไปได้
3. พิษณุโลก
เรียนรู้ประวัติศาสตร์อันยาวนานผ่านเรื่องราวในพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี ที่รวบรวมข้าวของเครื่องใช้และสิ่งของที่หาชมยาก เช่น ซากสัตว์ เขาสัตว์ สมุนไพร ยาไทย และเครื่องมือแพทย์แผนโบราณ เป็นต้น ซึ่งเก็บรักษามาตั้งแต่อดีตสะท้อนวิถีชีวิตพื้นบ้านของชาวจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งด้านในมีพิพิธภัณฑ์มีสวนธรรมชาติที่ตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ไทยหลากหลายชนิด ขยับไปอีกนิดไปชมชิมกล้วยตากบางกระทุ่ม ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งผลิตกล้วยตาก ที่มีดีกรีความอร่อยระดับแนวหน้าของประเทศ ภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมากว่า 100 ปี แล้วไปตามรอยเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ลานหินปุ่ม ผาชูธง ภูหินร่องกล้า ที่เกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติ แลนด์มาร์กสุดอันซีนที่ต้องไปเห็นด้วยตาสักครั้งในชีวิต