ล่วง 27 ปี สู่การดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย จำกัด ยังคงเร่งสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้สมาชิกทั้ง 7,000 คน เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้บริการออมทรัพย์ ทั้งการกู้เพื่อนำไปจัดซื้อที่อยู่อาศัยและนำไปจัดหาประโยชน์ด้านอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์
ทั้งนี้ นายสาวิทย์ แก้วหวาน ที่ปรึกษาสหกรณ์ออมทรัพย์ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย จำกัด ให้สัมภาษณ์พิเศษ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สหกรณ์แห่งนี้จัดเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ซึ่งสหภาพทำหน้าที่เรียกร้องปกป้องสิทธิ์แสวงหา คุ้มครองสิทธิประโยชน์ ดังนั้น เมื่อสมาชิกมีรายได้ก็ควรจะมีแหล่งเงินของคนรถไฟเองที่จะมาเกื้อกูลกัน รูปแบบเงินฝากสหกรณ์ โดยสมาชิกสามารถซื้อหุ้น และกู้ดอกเบี้ยราคาถูก ปัจจุบัน ขยายโอกาสไปสู่สมาชิกสมทบ ครอบครัวที่สนใจออมเงินกับสหกรณ์นี้
โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2535 ปัจจุบัน มีสมาชิกกว่า 7,000 คน ผู้ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย จำกัด จะต้องเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย ล่าสุด มีมูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 2,000 ล้านบาท ให้บริการสมาชิกทั่วประเทศ ล่าสุด ได้รับรางวัลสหกรณ์ดีเด่น มีการบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส จากกรมส่งเสริมสหกรณ์
"เปิดให้บริการเช่นเดียวกับสหกรณ์อื่น ๆ ทั้งการฝาก กู้ฉุกเฉิน กู้สามัญ ระยะสั้นและระยะยาว กู้ซื้อบ้าน รถยนต์ โดยกรรมการจะผ่านการคัดเลือกมาแต่ละภาคทั่วประเทศเข้ามาทำหน้าที่เป็นปากเสียงแก่สมาชิก 1 ชุด มีจำนวน 12 คน ทำหน้าที่บริหารจัดการสหกรณ์แต่ละวาระ ปัจจุบัน มีเงินทุนสำรองเพียงพอ โดยไม่ต้องยื่นขอกู้จากสหกรณ์พันธมิตรอื่น ๆ อีกทั้งยังได้นำเงินไปลงทุนในชุมนุมสหกรณ์ฯ ทั้งการซื้อหุ้นซื้อพันธบัตรเพิ่มความแข็งแกร่งด้านเงินทุนอีกด้วย"
ทั้งนี้ ในการบริหารจัดการนั้น ได้วางระบบการตรวจสอบอย่างเข้มงวด พร้อมกับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกอย่างผู้ตรวจกรมบัญชีสหกรณ์ ทุกเดือนจะรายงานข้อสังเกตต่าง ๆ ให้คณะกรรมการทราบในที่ประชุมอย่างต่อเนื่อง สำหรับก้าวต่อไปของสหกรณ์นั้น ยังเน้นด้านการสมดุล ปันผลพอดีไม่ให้กระทบต่อวงเงินสำรอง ไม่ให้กระทบต่อภาระดอกเบี้ยที่จะต้องนำไปชำระ เน้นรักษาความสมดุล เข้มงวดกติกา ประการสำคัญ หากกู้ไปแล้วนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์สามารถเรียกคืนได้ทันที
"3-5 ปีนี้ จะเน้นขับเคลื่อนอย่างไรต่อไปนั้น ยืนยันว่า ปัจจุบัน สหกรณ์ได้จัดสวัสดิการแก่สมาชิกอย่างครอบคลุม พร้อมกับดึงสวัสดิการภายนอกเข้ามาเพิ่มอยู่เสมอ อีกทั้งยังจัดยอดเงินไว้ประมาณ 10% ของผลกำไรแต่ละปี เป็นค่าสวัสดิการต่าง ๆ ดังนั้น แต่ละปีจึงได้เห็นสมาชิกแสดงเจตจำนงไม่ขอรับเงินปันผล แต่กลับนำไปขอซื้อหุ้นเพิ่มหลายราย เมื่อออกจากงานจึงได้รับเงินสะสมไปใช้จ่ายจำนวนมาก นั่นเป็นเพราะสมาชิกมองเห็นความสำคัญ ส่งผลให้สหกรณ์มีความมั่นคง ยืนยันว่า สหกรณ์ของสหภาพ รฟท. ดำเนินไปตามกฎเกณฑ์กติกา อาจจะไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนธนาคารพาณิชย์ แต่ก็สร้างความมั่นคงให้สมาชิกมาจนถึงปัจจุบันนี้"
หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3460 ระหว่างวันที่ 11-13 เมษายน 2562