“สนธิรัตน์”ประกาศตรึงราคาก๊าซหุงต้ม กลุ่มหาบเร่แผงลอย ให้ซื้อต่ำกว่าราคาทั่วไป 37.50 บาทต่อกิโลกรัม และตรึงราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะที่ 11.62 บาทต่อกิโลกรัม ต่อไปอีก 2 เดือน (ส.ค.-ก.ย.2562) ก่อนพิจารณาดึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาช่วยเหลือแทน พร้อมมอบพลังงานจังหวัดช่วยเหลือภัยแล้งด้วยระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการหารือกับข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงาน มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยรองปลัดและอธิบดีทุกกรมเข้าร่วมประชุมว่า ได้กำหนดเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ ได้แก่ มาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยได้พิจารณามาตรการช่วยเหลือเรื่องราคาก๊าซหุงต้มผู้มีรายได้น้อย และหาบเร่แผงลอย ที่จะขยายเวลาการช่วยเหลือออกไปอีก 2 เดือน หรือไปจนถึงเดือนกันยายนนี้ โดยให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แบกรับภาระนี้เดือนละ 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มหาบเร่แผงลอยสามารถซื้อแอลพีจีได้ในราคาที่ต่ำกว่าทั่วไปที่จำหน่ายอยู่ 363 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม หรือซื้อได้ในราคาถูกกว่าทั่วไป 37.50 บาทต่อกิโลกรัม ไม่เกิน 150 กิโลกรัมต่อเดือน ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้สุดลงเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน ( กบง.) เมื่อวันที่ 8 พศจิกายน 2561 ผ่านมา และกบง.ล่าสุดได้ขอให้ ปตท.ขยายการช่วยเหลือกลุ่มหาบเร่แผงลอยต่อไปจนถึงสิ้นเดือน สิงหาคม 2562 นี้
ดังนั้น ทำให้กลุ่มหาบเร่แผงลอยยังคงซื้อ LPG ราคาถูกที่ 325.5 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่อไปถึง กันยายน 2562 โดยนับตั้งแต่ กุมภาพันธ์ 2558-มิถุนายน 2562 ปตท.ให้การช่วยเหลือกลุ่มหาบเร่แผงลอยรวม 1,936 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อให้กระทรวงพลังงานได้ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ชัดเจนขึ้น โดยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่คาดว่าจะนำมาใช้ในเดือนตุลาคมนี้ แต่ทั้งนี้จะต้องหารือกับกระทรวงการคลังให้ได้ข้อสรุปก่อน
นอกจากนี้ ยังขอให้ปตท.ตรึงราคาก๊าซธรรมชาติหรือเอ็นจีวี สำหรับรถโดยสารสาธารณะต่อไปอีก 2 เดือน(ส.ค.-ก.ย.2562) หลังจากกที่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 1 บาทต่อกิโลกรัม จากทั้งหมดที่ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีมติให้ขึ้น 6 บาทต่อกิโลกรัม
“มติ กบง.เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2562 กำหนดให้ ปตท.สามารถปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีได้ 3 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมจำหน่ายอยู่ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 13.62 บาทต่อกิโลกรัม แต่ให้ทยอยปรับขึ้น 4 เดือนต่อครั้ง นับตั้งแต่ 16 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป ดังนั้นเท่ากับวันที่ 16 กันยายน 2562 นี้ ปตท.จะยังไม่ได้ปรับราคาเอ็นจีวีขึ้นอีก 1 บาทต่อกิโลกรัมตามมติ กบง.ที่ผ่านมา”
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า อีกทั้ง จะดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนเรื่องภัยแล้ง ซึ่งได้มอบหมายให้พลังงานจังหวัด ไปสำรวจพื้นที่ที่รับผิดชอบว่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างไรบ้าง เพื่อให้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเรื่องระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์บ่อบาดาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มีการดำเนินการไว้อยู่แล้ว
รวมถึง แนวทางแก้ปัญหาเรื่องราคาปาล์มน้ำมันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรกระทรวงพลังงาน ได้มีการเสนอแผนระยะสั้น และระยะกลางให้กับคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติถึงแนวทาง ที่เหมาะสม โดยแผนระยะสั้นได้มอบหมายให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ดำเนินการช่วยเหลือตามแนวทางที่เคยดำเนินการไว้ ส่วนแผนระยะกลางจะมีการขับเคลื่อนการใช้ B10 และ B20 ให้ชัดเจน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนและเหมาะสม
ส่วนกรณีการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับฟังรายละเอียดและมอบแนวทางการดำเนินงานให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติไปจัดทำรายละเอียด เพื่อนำรายละเอียดทั้งหมดมาพิจารณา เพื่อนำไปสู่การเจรจาที่ได้ข้อยุติที่เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย รวมถึงการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีฉบับใหม่นั้น ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ไปพิจารณารายละเอียดให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ว่าจะมีเรื่องใดที่จะต้องปรับปรุงบ้าง