เจ้าสัวธนินท์ ย้ำลงทุนรถไฮสปีดมีความเสี่ยง รัฐต้องเสี่ยงด้วยอย่าโยนให้เอกชนอย่างเดียว แนะฉวยโอกาส เทรดวอร์อเมริกา-จีน ดึงนักธุรกิจโยกฐานมาไทย แทนที่เวียดนาม อินโดฯ
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) กล่าวในงานเปิดตัวหนังสือ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว” ณ งานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 24 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า ในยุค 4.0 ซึ่งโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การลงทุนก็จำเป็นต้องมีอยู่ และต้องคำนึงถึงความเสี่ยง การลงทุนในรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบิน มีความเสี่ยงแต่ก็มีโอกาสสำเร็จ ถ้ารัฐบาลเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาล เป็นเรื่องเศรษฐกิจแท้ๆ ไม่ใช่เรื่องของประชาชน การทำ PPP รัฐบาลต้องร่วมกับเอกชน เอาจุดเด่นของเอกชนมาบวกรวมกัน มาลดจุดอ่อนของรัฐบาล แต่ TOR ไม่ใช่ รัฐบาลต้องพร้อมร่วมรับผิดกับเอกชน ถ้าเสี่ยงก็ต้องเสี่ยงด้วยกัน ถ้าล้มก็ต้องล้มด้วยกัน ไม่ใช่ปล่อยให้เอกชนเสี่ยง รัฐบาลไม่เสี่ยง
เรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ ยุคนี้ต้องเร็ว การเชื่อมต่อ 3 สนามบิน จะทำให้คนอยู่ระยอง เดินทางมากรุงเทพฯได้ในระยะเวลาแค่ 45 นาที ซึ่งในหลายประเทศทำแล้ว เช่นจีน ต่อไปทุกอย่างต้องรวดเร็ว วันนี้ถ้า EEC ไม่เกิด เรากำลังถดถอย เพราะเขาจะย้ายฐานไปลงทุนในเวียดนาม อินโดนีเซีย ฐานปิโตรเลียมของเราค่อยๆ ลดลง ทั้งจากการถูกต่อต้าน ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว รถยนต์ก็เช่นกันวันนี้ถึงจุดเปลี่ยนแปลง จากอดีตที่เรายิ่งใหญ่สุดในอาเซียน แต่วันนี้กำลังจะเปลี่ยนไป เป็นรถไฟฟ้า ทุกบริษัทหันไปผลิตรถไฟฟ้า ก็จะหาแหล่งผลิต แต่ไทยยังทำแบบเดิมต่อไปอีก 10 ปี ไม่ลงทุนใหม่ ทำไปขายไป แต่รถไฟฟ้าย้ายฐานผลิตไปลงอินโดฯ ซึ่งมีประชากรกว่า 300 ล้านคน เวียดนามกว่า 100 ล้านคน ตลาดเขาก็โต ถ้าเราไม่ให้เขาย้ายก็ต้องให้อินเทนซีพกับเขา
“สงครามการค้าอเมริกากับจีนยังเป็นโอกาสของไทย ทำไมเรายังนอนหลับ ปล่อยให้เขาย้ายฐานไปเวียดนาม อินโดฯ สิงคโปร์”
นายธนินท์ ย้ำว่า ตอนนี้เศรษฐกิจถดถอย พื้นฐานเศรษฐกิจไทย มาจากการลงทุนของญี่ปุ่น 70% ซึ่งเกิดขึ้นมายาวนาน วันนี้ทุกคนมีโอกาส ไทยเองก็มีโอกาสจากสงครามการค้าอเมริกา-จีนที่เกิดขึ้น ก็ต้องฉวยโอกาสไว้
“บริษัทใหญ่ก็ล้มได้ การลงทุนอะไรจึงต้องคำนึงถึงความเสี่ยงถ้าบอกว่าเสี่ยง 30% ได้ 70% ผมทำ เช่นวันนี้โลกเปลี่ยน เราต้องปรับให้ทัน คนหันมาหาอาหารสุขภาพมากขึ้น เราก็ต้องศึกษา วิจัยพัฒนา การจะผลิตอาหารมังสวิรัติ โดยใช้ถั่ว ใช้ยีนส์สร้างเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ปลอม ต้นทุนสูงแต่มีโอกาส วันนี้เราจับมือกับฮาร์เวิร์ด ค้นคว้าเรื่องยีนส์ของหมู พัฒนาสายพันธุ์ ให้เป็นโอเมก้า 3 เพื่อเป็นประโยชน์ ให้เหมือนกับไข่ไก่ที่เราสามารถทานได้ทุกวัน”