ที่ดินทำเลทองหัวมุมห้าแยกลาดพร้าว เนื้อที่ 47.22ไร่หรือที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เรียกสามเหลี่ยมพหลโยธิน ปัจจุบัน เป็นที่ตั้งของ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลลาดพร้าว และโรงแรมหรู สร้างรายได้มหาศาลให้กับกลุ่มเซ็นทรัล และ พื้นที่โดยรอบ
ที่บริษัท เซ็นทรัลอินเตอร์พัฒนา จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ตกลงค่าเช่า ก่อนต่อสัญญา กับรฟท.ครั้งที่สองเป็นเวลา 20ปี นับจากปี2551 –2571 รวม ค่าเช่าตลอดสัญญา 21,298ล้านบาท ล่าสุด งวด ที่ 12 (19ธันวาคม 2562- 18ธันวาคม 2563) ชำระ 1,099ล้านบาท
หากนับนิ้ว ตั้งแต่ปี2551จนถึง 2563 เป็นเวลา 12 ปี รฟท.ได้เงินค่าเช่าจาก การประกอบธุรกิจบนที่ดินผืนนี้ 9,767ล้านบาท เทียบเป็นตารางวา ประมาณ5.5-5.9 หมื่นบาทต่อปี จากพื้นที่ 18,888 ตางวา ( 47.22ไร่) ขณะราคาที่ดินปัจจุบัน แตะ 1ล้านบาทต่อตารางวา ราคาประเมิน กรมธนารักษ์ ประมาณ 5แสนไปจนถึงไม่เกิน7แสนบาทต่อตารางวาเนื่องจากมีรถไฟฟ้าพาดผ่าน มีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ เกิดขึ้น และอนาคตกำลังกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพตอนเหนือ รองรับการขยายตัว ต่อจากย่านซีบีดี กรุงเทพชั้นในอย่างสุขุมวิท อีกทั้งยังตั้งอยู่ไม่ห่างจาก สถานีกลางบางซื่อ จุดศูนย์กลางระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
นับจากนี้ ขุมทองแห่งนี้ เหลือเวลาอีก 9ปี กับค่าเช่า ที่ต้องจ่าย ประมาณ กว่า 10,000ล้านบาท เนื่องจากประเมินว่าไม่น่า จะทำสัญญาเรียกเก็บแบบขั้นบันได ตามการเปลี่ยนแปลง ของเมือง หาก ถึงวันสิ้นสุดสัญญา ลองคิดกันเล่นๆว่า ทุนยักษ์รายใดจะ ได้ที่ดินผืนนี้ไป หรือ จะเป็นกลุ่มเซ็นทรัลเดิม จะต่อสัญญา เป็นรอบที่3 แต่ ดูเหมือน ที่ดินอีกแปลงที่กลุ่มเซ็นทรัลซื้อต่อกลุ่มบีทีเอส 48ไร่ แนวรถไฟฟ้า ทำเลตรงข้ามแดนเนรมิตรเก่า ที่ผ่านมาได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่าจะลงทุนรูปแบบมิกซ์ยูส มีทั้งห้างสรพสินค้า โรงแรม ที่อยู่อาศัย น่าจับตายิ่ง
สำหรับบริษัท เซ็นทรัลอินเตอร์พัฒนา จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล เช่าที่ดินบริเวณสามเหลี่ยมย่านพหลโยธิน เนื้อที่ 47.22 ไร่ พัฒนาเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ตั้งแต่ปี 2521 ครบสัญญารอบแรก 30 ปี เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2551 ช่วงนั้นหากจำไม่ผิด รฟท. ได้ค่าเช่า น่าจะอยู่ที่ปีละ10ล้านบาทเนื่องจาก ช่วงเซ็นสัญญา ยังไม่มีตัวอาคาร เป็นยุคที่เซ็นทรัล ลงทุน บุกเบิก พลิกที่ดินดิบๆ จาก”ทุ่งควายเดิน”ที่หลายคนเมินเมื่อ 42ปีก่อน ให้เป็น ขุมทองมีมูลค่ามหาศาล กระทั่งจวบจนทุกวันนี้