ขยายสัมปทานBEM จ่อสร้าง‘Double Deck’
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบยุติข้อพิพาทระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ด้วยการยอมแก้ไขสัญญาตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจแก้ไขแล้ว ก่อนที่สัญญาเดิมจะหมดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้ โดยการยอมยุติข้อพิพาทครั้งนี้ BEM จะได้รับการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนออกไปอีก 15 ปี 8 เดือน
การระงับข้อพิพาทครั้งนี้มีการศึกษามานานแล้ว ซึ่งกทพ.ดำเนินการเจรจาทั้ง 17 เรื่องที่พิพาท และมีคดีที่กทพ.แพ้วงเงินรวมดอกเบี้ยประมาณ 7.8 หมื่นล้านบาท หากไม่ยุติคดีก็อาจจะแพ้ในอนาคตที่อาจจะต้องชดเชยกว่า 3 แสนล้านบาท
การแก้ปัญหาดังกล่าวรัฐได้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่จะได้ และที่ต้องรีบดำเนินการเพราะมีสัญญาจะหมดวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้ ทั้งสัญญา A B C D หากไม่ขยายสัมปทานจะต้องประกวดราคาใหม่ แต่การประกวดใหม่ไม่ทำให้หนี้หยุดไป จะมีหนี้ที่บวกดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ ถ้าไม่เจรจาจนถึงปี 2578 มูลหนี้จะอยู่ที่กว่า 3 แสนล้านบาท
“เพื่อให้เรื่องนี้จบโดยสิ้นเชิง ถ้านำ 3 คดีมาเจรจา แล้วอนาคตแพ้คดีที่ยังเหลืออีก ก็จะเกิดปัญหาอีก จึงต้องเซตซีโร่ ถ้าอย่างนั้นทำทั้งหมด อดีต ปัจจุบัน อนาคต มาเจรจากัน คือ 17 คดีนี้เลิกแล้วถอนให้หมด โดยรัฐไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว แลกกับการขยายเวลาไปอีกถึงปี 2578 และรัฐจะสามารถสร้างทางแข่งขันได้”
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้อัยการสูงสุดยืนยันไม่มีคดีใดขาดอายุความ เป็นคดีที่อยู่ระหว่างไกล่เกลี่ย ส่วนข้อกังวลของสหภาพฯกทพ.เรื่องการลงบัญชีหนี้ ที่สหภาพห่วงกังวล เมื่อแพ้คดีก็ลงบัญชีหนี้ แสดงว่ากทพ.จ่ายโบนัสไม่ได้กว่า 20 ปี เพราะขาดทุนสะสม และจากการสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ยืนยันถ้าเจรจาถอนฟ้องแล้วก็ไม่มีการลงบัญชีหนี้ เมื่อไม่มีหนี้โบนัสก็จะกลับมา
สำหรับข้อเสนอของ BEM ที่จะมีการก่อสร้างโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 ช่วงประชาชื่น-พระราม 9 (Double Deck) ระยะทาง 17 กม. วงเงินลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท ที่ประชุมครม.มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมกลับไปศึกษาเรื่องนี้ใหม่
ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ BEM ระบุว่าทำได้ในทางเทคนิค ในแง่ของสิ่งแวดล้อมไม่รู้ จึงมีโจทย์ว่าให้ศึกษา จึงให้เวลา 2 ปี ดูผลกระทบสิ่งแวดล้อม ถ้าออกมาน่าพอใจก็ดำเนินการต่อตามขั้นตอน แต่ถ้าทำ EIA ไม่เสร็จภายใน 2 ปีก็จบ ถ้าศึกษาไม่เสร็จภายใน 2 ปี เรื่องนี้ก็จบ แต่ถ้าศึกษา EIA ผ่านแล้วครม.ขณะนั้นเห็นว่าไม่ควรก่อสร้างก็จบอีกเช่นกัน และการที่เอกชนลงทุนฟรีไปก็ไม่สามารถเรียกคืนจากรัฐได้แม้แต่บาทเดียว
“ครม.จึงให้ไปดูตรงนี้มาอีกจุดเป็นของขวัญคนกทม.ว่าจะมีทางด่วนฟรีอีก 1 สาย แต่วันนี้ไม่อยู่ในเงื่อนไขในสัญญา”
แหล่งข่าวจากที่ประชุมครม.เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ที่ประชุมครม.ไม่ขัดข้องที่จะให้ BEM ก่อสร้างโครงการทางด่วนชั้นที่ 2 เพราะรัฐบาลไม่ต้องเป็นผู้ลงทุน อีกทั้งประชาชนก็จะได้ประโยชน์ เพราะจะไม่มีการเก็บค่าผ่านทางเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเพื่อความชัดเจนที่ประชุมครม.มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมกลับไปศึกษาอีกครั้
หน้า 11 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,550 วันที่ 20 - 22 กุมภาพันธ์ 2563