ซีพี .ขอเวนคืนที่สร้างไฮสปีดเพิ่ม 3จุด ช่วงแม่น้ำแม่บางปะกง บริเวณอุโมงค์เขาชีจรรย์ บริเวณทางลอดใต้ถนนเข้าพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่มซีพี) เอกชนผู้ชนะการประมูล ได้ชี้แจงแผนก่อสร้างโดยต้องการขอขยายพื้นที่ก่อสร้าง 3 จุด จากรัศมีการเวนคืนที่ ร.ฟ.ท.กำหนดเดิม 25 เมตร เพิ่มเป็น 40 เมตร ส่งผลให้ต้องเวนคืนพื้นที่เพิ่ม ประกอบไปด้วย บริเวณงานก่อสร้างช่วงแม่น้ำบางปะกง บริเวณอุโมงค์เขาชีจรรย์ และบริเวณทางลอดใต้ถนนเข้าพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา
สำหรับเวนคืนที่ดินเดิมได้กำหนดเวนคืน 25 เมตร แต่ฝ่ายเอกชนแจ้งว่าบางจุดอาจต้องใช้มากกว่านั้น เพราะบางส่วนต้องใช้พื้นที่ก่อสร้าง ต้องวางเครื่องจักร ซึ่งตอนนี้ฝ่ายเอกชนได้กำหนดมา 3 จุด โดยที่ประชุมให้กลับไปศึกษาเหตุผลความจำเป็นว่าทำไมต้องเวนคืนเพิ่ม จาก 25 เมตร เป็น 40 เมตร หลังจากนั้นจะให้ที่ปรึกษาการรถไฟฯ ตรวจสอบ หากพบว่ามีความจำเป็นที่ต้องเวนคืนเพิ่มก็จะอนุมัติ จึงสรุปได้ว่าวันนี้ที่ประชุมเคลียร์การส่งมอบทั้งหมดแล้ว ติดเพียงเรื่องขยับที่เวนคืนเป็น 40 เมตรเท่านั้น ก็จะต้องรอพิจารณาในที่ประชุมครั้งถัดไป
รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า แผนส่งมอบพื้นที่ขณะนี้ถือว่าเสร็จหมดแล้ว ขณะเดียวกันส่วนที่เหลือเป็นหน่วยงานที่เป็นเจ้าของสาธารณูปโภคจะต้องจัดสรรงบประมาณในการรื้อย้ายเอง ซึ่งงบที่จะขอเพิ่มเติม 4,000 ล้านบาทนั้น เป็นส่วนที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบในการก่อสร้างทดแทนสาธารณูปโภคที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งนอกเหนือจากงบประมาณรื้อย้าย 479 ล้านบาทที่ ร.ฟ.ท.เคยได้รับอนุมัติจาก กพอ.ไปก่อนหน้านี้
“แผนเข้าพื้นที่ก่อสร้างโครงการ ตามข้อกำหนดในสัญญาร่วมทุนระบุไว้ว่า ร.ฟ.ท.จะต้องส่งมอบพื้นที่เพื่อให้กลุ่มซีพีสามารถดำเนินการสร้างได้ ดังนั้นการส่งมอบพื้นที่เป็นส่วนๆ ไม่ประติดประต่อ ก็ไม่สามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ ข้อสรุปตอนนี้คือเราต้องเคลียร์พื้นที่ให้ได้เป็นช่วง เพื่อให้ซีพีทยอยเริ่มงานก่อสร้างอย่างสมบูรณ์”
อย่างไรก็ตามแผนส่งมอบพื้นที่ที่ ร.ฟ.ท.กำหนด ส่วนแรกบริเวณที่มีความพร้อมเป็น ช่วงสุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา คาดว่าจะใช้เวลาส่งมอบแล้วเสร็จภายในประมาณ 1 ปีกว่า ซึ่งปัจจุบันได้เคลียร์ระบบสาธารณูปโภคเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าพื้นที่ช่วงนี้ จะเป็นส่วนแรกที่กลุ่มซีพีสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันที่ประชุม กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่มซีพี) เอกชนผู้ชนะการประมูล ได้ชี้แจงแผนก่อสร้างโดยต้องการขอขยายพื้นที่ก่อสร้าง 3 จุด จากรัศมีการเวนคืนที่ ร.ฟ.ท.กำหนดเดิม 25 เมตร เพิ่มเป็น 40 เมตร ส่งผลให้ต้องเวนคืนพื้นที่เพิ่ม ประกอบไปด้วย บริเวณงานก่อสร้างช่วงแม่น้ำบางปะกง บริเวณอุโมงค์เขาชีจรรย์ และบริเวณทางลอดใต้ถนนเข้าพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา
สำหรับเวนคืนที่ดินเดิมได้กำหนดเวนคืน 25 เมตร แต่ฝ่ายเอกชนแจ้งว่าบางจุดอาจต้องใช้มากกว่านั้น เพราะบางส่วนต้องใช้พื้นที่ก่อสร้าง ต้องวางเครื่องจักร ซึ่งตอนนี้ฝ่ายเอกชนได้กำหนดมา 3 จุด โดยที่ประชุมให้กลับไปศึกษาเหตุผลความจำเป็นว่าทำไมต้องเวนคืนเพิ่ม จาก 25 เมตร เป็น 40 เมตร หลังจากนั้นจะให้ที่ปรึกษาการรถไฟฯ ตรวจสอบ หากพบว่ามีความจำเป็นที่ต้องเวนคืนเพิ่มก็จะอนุมัติ จึงสรุปได้ว่าวันนี้ที่ประชุมเคลียร์การส่งมอบทั้งหมดแล้ว ติดเพียงเรื่องขยับที่เวนคืนเป็น 40 เมตรเท่านั้น ก็จะต้องรอพิจารณาในที่ประชุมครั้งถัดไป