เตรียมเฮ! ปลดล็อคขนส่งสาธารณะ “เดินทางข้ามจังหวัด” เต็มทุกระบบ

04 มิ.ย. 2563 | 09:21 น.

“คมนาคม” เดินหน้าปลดล็อคขนส่งสาธารณะทุกระบบเต็ม 100% หลังรัฐผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ เฟส 3 ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เว้นบางจังหวัดที่คุมเข้มล็อกดาวน์ต่อเนื่อง คาดรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเปิดเดินรถ

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์  รองปลัดกระทรวงคมนาคม  เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมได้แจ้งให้หน่วยงานในสังกัดที่ให้บริการขนส่งสาธารณะทุกระบบเปิดให้บริการได้ 100% แล้ว ทั้งรถโดยสารสาธารณะ (รถทัวร์) ทั่วประเทศ รถไฟทางไกล และเครื่องบิน เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ยกเว้นในบางจังหวัดที่ยังใช้มาตรการล็อคดาวน์อยู่ ซึ่งการปลดล็อคนี้เป็นไปตามที่ได้หารือกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดเล็กว่า หลังจากที่ศบค.ได้ออกมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 กระทรวงคมนาคมก็สามารถดำเนินการปลดล็อคขนส่งสาธารณะทุกระบบได้ 100%

 

อ่านข่าว “คมนาคม” ชง ศบค. เปิดเส้นทางขนส่งสาธารณะ “ข้ามจังหวัด”

อ่านข่าว “คมนาคม” จ่อคลายล็อคดาวน์ เฟส 3

“การปลดล็อคทุกระบบขนส่งสาธารณะของกระทรวงคมนาคมมีผลแล้ว แต่การให้บริการนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละหน่วยงานที่ดูแล อาทิ รถโดยสาธารณะ ต้องรอประกาศจากกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)ว่าให้เดินรถได้เมื่อไหร่ ,รถไฟทางไกลต้องให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)แจ้งก่อน หรือสายการบินต่างๆต้องรอประกาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) รวมถึงเรื่องความถี่ในการให้บริการก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานที่ดูแลที่จะทยอยปรับเพิ่มตามความต้องการของประชาชนและความพร้อมของผู้ประกอบการด้วย”

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมได้ตรวจสอบจังหวัดที่เคยมีมาตรการห้ามเข้าออกจำนวน 19 จังหวัด พบว่าในจำนวนนี้มี 11-12 จังหวัดได้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์แล้ว สามารถเดินทางเข้าออกได้ แต่ทางจังหวัดอาจจะมีมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อื่นๆ เพิ่มเติม ส่วนอีก 7-8 จังหวัดที่เหลือ กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการขอข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการเข้าออกในจังหวัดนั้นๆ คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้

 

อย่างไรก็ตามในการใช้บริการขนส่งสาธารณะนั้นกระทรวงคมนาคมได้กำหนดให้ระบบขนส่งสาธารณะทุกระบบเข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้ง มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing), การสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ใช้บริการ ,การให้บริการเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ รวมถึงการสแกนแพลตฟอร์ม ไทยชนะเพื่อติดตามผู้โดยสารกรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19