ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในการประชุมครั้งที่ 11/2563 จำนวน 3 โครงการ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ประกอบด้วย
1.อนุมัติโครงการอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย วงเงินไม่เกิน 1,080.59 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้ปฏิบัติงานเป็นอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น เป็นระยะเวลา 12 เดือน ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องได้เข้ารับการฝึกอบรม เพื่อให้มีความรู้และทักษะปฏิบัติในการดูแลผู้สูงอายุที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองในหมู่บ้านหรือชุมชนได้ รวมถึงเพื่อกระจายรายได้ให้ประชาชน สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องมีคุณสมบัติในการประกอบอาชีพนักบริบาลในสถานประกอบการและนักบริบาลอิสระเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ และให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงได้รับการดูแลทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐในการดูแลรักษา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ประกันตนมาตรา 33 เฮ ครม.อนุมัติจ่ายเงินเยียวยาครั้งเดียว 15,000 บาท
ด่วน!ครม.อนุมัติบิ๊กแพ็กเกจฟื้นศก.ชุดที่3 สู้ภัยโควิด-19
ด่วน ครม.เห็นชอบเพิ่มค่าตอบแทนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เป็นเงินพิเศษ
ตรวจสอบสิทธิ์ “เยียวยาเกษตรกร” สศก.ชง ครม. ขยายเวลาจ่ายเงินเยียวยา โควิด-19
ระยะเวลาดำเนินโครงการ ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 – กันยายน 2564 คาดว่า จากโครงการนี้จะสามารถเพิ่มรายได้กับให้ประชาชนในพื้นที่เป้าหมาย 932.88 ล้านบาท และเพิ่มการจ้างงานให้แก่ประชาชนได้ประมาณ 15,548 คน และเกิดนักบริบาลที่เป็นอาชีพใหม่ในท้องถิ่น ประมาณ 15,548 คน
2.อนุมัติโครงการพัฒนาตำบลแบบบูรณาการ ของกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย วงเงินไม่เกิน 2,701.87 ล้านบาท วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในทุกตำบล ตำบลละ 2 คน ทั่วประเทศ จำนวน 14,510 คน เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 2,701.87 ล้านบาท กระจายลงพื้นที่ และเป็นฐานข้อมูลแบบบูรณาการ (Data Base) ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการวางแผนพัฒนาพื้นที่ในทุกระดับ เช่น แผนพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน แผนพัฒนาตำบล เป็นต้น ทั้งยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและการพัฒนาพื้นที่
ระยะเวลาดำเนินโครงการ ระหว่างเดือน สิงหาคม 2563 – กันยายน 2564 คาดว่า จากโครงการนี้จะเพิ่มการจ้างงานตำบลละ 2 คน ใน 7,255 ตำบลทั่วประเทศ รวม 14,540 คน อัตราค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ระยะเวลาจ้าง 12 เดือน คิดเป็นมูลค่า 2,611.8 ล้านบาท เกิดฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาพื้นที่แบบบูรณากร (Data Base) ที่มีประสิทธิภาพ และเกิดการกระจายรายได้ถึงมือประชาชนในพื้นที่
3.อนุมัติโครงการเฝ้าระวังสร้างแนวกันไฟ สร้างรายได้ชุมชน ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วงเงินไม่เกิน 246.69 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ จำนวน 9,137 คน โดยได้รับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามมาตรฐานกรมบัญชีกลาง 300 บาทต่อวัน เฉลี่ย 30 วันต่อเดือนต่อคน เพื่อการเฝ้าระวังและลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟป่า และเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาไฟป่า ระยะเวลาดำเนินโครงการ ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 - พฤษภาคม 2564 คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน รวม 246.69 ล้านบาท และเพิ่มการจ้างงานให้แก่ประชาชน จำนวน 9,137 คน
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการจ้างงาน เพิ่มรายได้จะทยอยเข้าสู่การพิจารณาของครม. ทั้งนี้ จะมีการจัดทำแพลตฟอร์มแรงงานเพื่อบันทึกข้อมูลการจ้างงานของโครงการต่างๆ ภายใต้พ.ร.ก.เงินกู้ เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนของผู้เข้าร่วมโครงการ