นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูง ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) เปิดเผยว่า การประชุมคณะทำงานครั้งนี้ เป็นการประชุมนัดแรกภายหลังจากที่ตนเข้ามารับตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งได้รับทราบความคืบหน้าโครงการจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังยืนยันว่าการทำงานในขณะนี้เดินหน้าตามแผน จะมีการส่งมอบพื้นที่ส่วนแรก ช่วงสุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา ให้เอกชนเข้าดำเนินงานตามสัญญากำหนด คือ ภายในเดือน ต.ค.2564
“ในภาพรวมตอนนี้ทุกงานจะแล้วเสร็จทันกรอบเวลากำหนดไว้ คือจะมีการส่งมอบพื้นที่ตามสัญญาภายใน ต.ค.2564 แต่สิ่งที่ผมมอบการบ้านกลับไป คือต้องการให้ทุกส่วนที่รับผิดชอบ จัดทำรายละเอียดของแผนอย่างละเอียด กลับมาเสนอ พ.ย.นี้ เพื่อให้ทราบว่างานส่วนใดใครรับผิดชอบ และจะมีการดำเนินงานอย่างไร แล้วเสร็จเมื่อไหร่ เพื่อใช้เป็นกรอบในการแก้ไขปัญหาระหว่างทางในการทำงาน ให้โครงการนี้เสร็จ เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อประชาชน”
นายชยธรรม์ กล่าวต่อว่า เอกชนได้มีการเสนอปรับแนวสถานี 2 สถานี คือ สถานีชลบุรี และสถานีฉะเชิงเทรา เรื่องนี้ขอให้ ร.ฟ.ท.พิจารณาด้วยว่าจะเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนอย่างไร โดยการปรับย้ายสถานีดังกล่าว จะต้องมีการจัดทำแผน scenario หรือประเมินสถานการณ์ หากมีการย้ายสถานีจะกระทบต่อแผนงานอย่างไร และได้ประโยชน์อย่างไร เพื่อนำมาเปรียบเทียบ แต่ท้ายที่สุดทุกอย่างจะต้องอยู่ในกรอบสัญญากำหนด หากกระทบต่อแผนก็อาจไม่พิจารณาอนุมัติได้
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับการโยกย้ายผู้บุกรุกช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ขณะนี้ทางคณะทำงานฯเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่ให้ทันตามกรอบเวลาดำเนินงานภายในเดือน ต.ค.2564 เบื้องต้นได้ดำเนินการรื้อย้ายผู้บุกรุกแล้ว 95% เหลือผู้บุกรุกอีก 5 % ทั้งนี้พบว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการบุกรุก จำนวน 302 หลังคาเรือน ดำเนินการรื้อย้ายผู้บุกรุกแล้ว 276 หลังคาเรือน เหลือผู้บุกรุกขออาศัยชั่วคราวอีก 26 หลังคาเรือน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
รายงานข่าว กล่าวต่อว่า ด้านการเวนคืนที่ดิน ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมของบประมาณเพิ่มเติมจากคณะกรรมการ (บอร์ด) นโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก จำนวน 3.1 พันล้านบาท เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนผู้บุกรุกที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืน จำนวน 923 ไร่ อาคารสิ่งปลูกสร้าง 679 หลังคาเรือน ขณะเดียวกันคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้น อยู่ในขั้นตอนของการจัดทำราคาประเมินเพื่อชดเชยการเวนคืนที่ดิน ร.ฟ.ท.ได้ดำเนินการลงพื้นที่สำรวจ และตัดทำรางวัดแล้ว ซึ่งส่วนนี้ได้รับรายงานว่าจะมีการดำเนินการแล้วเสร็จทันกรอบเวลากำหนดภายในเดือน พ.ย.2563 หลังจากนั้นจะประกาศราคาเวนคืนที่ดินแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ และเริ่มดำเนินการทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกเวนคืนที่ดินและจ่ายค่าทดแทนภายในเดือน ม.ค.2564 คาดว่าจะส่งมอบพื้นที่เวนคืนที่ดินให้แก่เอกชนคู่สัญญาภายในเดือน เม.ย.2564
“ขณะเดียวกันการของบประมาณเพิ่มเติมในครั้งนี้ เนื่องจากคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้น มีความเห็นว่าควรชดเชยงบประมาณให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านการเวนคืน หากเสนอในราคาที่ต่ำกว่านั้นประชาชนอาจจะไม่ยอม ทำให้มีการตั้งคณะกรรมการกำหนดราคาเบื้องต้นแบ่งออกเป็น 3 คณะทำงาน ประกอบด้วย 1.นายอำเภอฉะเชิงเทรา 2.นายอำเภอบางละมุง และ3.นายอำเภอฉะเชิงเทรา ซึ่งเราพยายามดำเนินการจ่ายค่าชดเชยให้มากกว่าราคาขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ราว 3-6 เท่า คาดว่าจะได้รับจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมภายในต้นเดือน มี.ค.2564 หลังจากนั้นจะเริ่มส่งมอบพื้นที่บางส่วนภายในเดือน มี.ค.2564”
นอกจากนี้ในส่วนการรื้อย้ายสาธารณูปโภค ปัจจุบันได้ดำเนินการกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนม.ค.2564 และดำเนินการขอใช้พื้นที่ต่อไป โดยจะเริ่มรื้อย้ายสาธารณูปโภค ทั้งหมด 756 จุด คาดแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.2564