นายทิโมธี อลัน พอตเตอร์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ “SPRC” เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3/63 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,024 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.22 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2/63 กว่า 27%
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันภายในประเทศกลับมาขยายตัวอีกครั้ง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันโดยเฉลี่ย ล้วนส่งผลให้มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น
สำหรับในไตรมาสที่ 3/63 “SPRC” มีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบอยู่ที่ 142,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณเท่ากับไตรมาสที่ผ่านมาและอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความต้องการใช้น้ำมันภายในประเทศ จากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลดน้อยลง รวมถึงส่วนลดราคาน้ำมันดิบที่ลดลง
ส่งผลให้กำไรสุทธิของไตรมาสที่ 3/63 อยู่ที่ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 268 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสที่ 2/63 ซึ่งอยู่ที่ 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.13 พันล้านบาท และค่าการกลั่นทางการตลาดลดลงจาก 4.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาสที่ 2/63 มาอยู่ที่ 1.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในไตรมาสที่ 3/63
“ท่ามกลางความท้าทายซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ แต่ SPRC ยังคงสามารถรักษามาตรฐานความเป็นเลิศในการดำเนินงานด้วยความปลอดภัย มีความพร้อมของหน่วยการผลิตและความเชื่อถือได้สูงสุดในการปฏิบัติงาน อีกทั้งยังได้ดำเนินมาตรการและแผนการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มกระแสเงินสดได้ถึง 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 63 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าศึกษาหาโอกาสการลงทุนในอนาคตเพื่อการเจริญเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วย”