นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้เตรียมความพร้อมก่อนเปิดหีบอ้อย ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 โดยจะเริ่มเปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2563 ระยะเวลาหีบอ้อยประมาณ 100 วัน เนื่องจากมีปริมาณอ้อยเข้าหีบน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ราว 67.04 ล้านตัน โดยในฤดูการผลิตปี 2563/2564 ได้ตั้งเป้าปริมาณอ้อยสดเข้าหีบ ไม่น้อยกว่า 80% ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด พร้อมเตรียมมาตรการจูงใจให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยหันมาตัดอ้อยสดก่อนส่งโรงงาน ทั้งในเรื่องของการส่งเสริมให้ราคาอ้อยสดสูงกว่าอ้อยไฟไหม้ การสนับสนุนเครื่องสางใบอ้อยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยยืมฟรี
และในกรณีมีนโยบายการช่วยเหลือจากภาครัฐ จะช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดเท่านั้น สำหรับแนวโน้มราคาอ้อยในฤดูการผลิตปี 2563/2564 เกษตรกรชาวไร่อ้อยจะมีรายได้รวมตันละไม่ต่ำว่า 1,000 บาทแน่นอน
นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวว่า สอน. ยังได้กำชับและคาดโทษแก่คณะทำงานควบคุมการผลิตประจำโรงงาน ให้ตรวจสอบอ้อยเข้าหีบว่าเป็นอ้อยสดหรืออ้อยไฟไหม้ โดยใช้เกณฑ์ตัดสินว่าหากมีอ้อยไฟไหม้แม้เพียงลำเดียวให้ถือว่าเป็นอ้อยไฟไหม้ทั้งคัน และหากพบว่ามีการทุจริตในการตรวจสอบอ้อยสดและอ้อยไฟไหม้ จะดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อป้องกันการร้องเรียนเรื่องอ้อยสดเทียม โดยสำนักงานจะไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรชาวไร่อ้อย โรงงานน้ำตาล หน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชน ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง หรือ PM 2.5