รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า สำหรับการต่อสัญญาที่ดินโพไซดอนเพื่อดำเนินการธุรกิจในรูปแบบโรงแรมระดับ 3 ดาว เบื้องต้นรฟท.อยู่ระหว่างดำเนินการประเมินมูลค่าทรัพย์ สินสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าว ราว 753 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ดิน 611 ล้านบาท และอาคาร 41 ล้านบาท โดยจัดจ้างที่ปรึกษาความเหมาะสมและค่าตอบแทนที่รฟท.จะได้รับตลอดอายุสัญญา เพื่อพิจารณาในการต่อสัญญา เนื่องจากจะหมดอายุสัญญาภายในปี 2567 คาดว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องดังกล่าวภาย ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หลังจากนั้นจะเสนอต่อที่ประชุม (บอร์ด) รฟท.พิจารณาเพื่อเห็นชอบภายใน 2-3 เดือน
ทั้งนี้สัญญาเช่าที่ดินแปลงโพไซดอน มีเพียงสัญญาเดียว ซึ่งเป็นสัญญาจัดหาประโยชน์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยมีอาคาร จำนวน 11 ชั้น เป็นสถานที่อาบอบนวด อาคารพาณิชย์ 7 ชั้น 3 คูหา และอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 32 คูหา ตอบแทน 200 ล้าน สำหรับสัญญาเช่าที่ดินของรฟท.ย่านถนนรัชดาฯ แปลงโพไซดอน สัญญาเริ่มตั้งแต่ปี 2537-2567 ระยะเวลา 30 ปี ที่ผ่านมาบริษัทชำระค่าเช่าอยู่ที่ กว่า4แสนบาท ในการลงทุนครั้งแรกเป็นที่ดินเปล่า ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องลงทุนก่อสร้างอาคาร
อย่างไรก็ตามในระเบียบของรฟท.หากมีการต่อสัญญาในพื้นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกจำเป็นต้องจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการฯ ซึ่งจะทำให้ที่ดินดังกล่าวมีราคาแพงขึ้น เบื้องต้นจากผลการศึกษาหากต่ออายุสัญญาออกไปอีก 30 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2567-2597 ระยะเวลา 30 ปี ทางบริษัทต้องจ่ายค่าตอบแทนให้รฟท.ราว 200 กว่าล้านบาท โดยในปีแรกบริษัทต้องชำระค่าเช่าให้รฟท.ราว 40 ล้านบาทต่อปี หลังจากนั้นจะมีการปรับอัตราค่าเช่าที่ดิน 10% ทุกๆ 3 ปี ซึ่งรฟท.มีหลายแนวทางศึกษารูปแบบการต่ออายุสัญญา หลายแนวทาง เช่น แบบ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี