นายปณิธาน มีไชยโย รองผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รักษาการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการ อ.ต.ก. เผยถึงแผน อ.ต.ก. ในปี 2564 เป็นนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหน่วยงานนี้ มองเห็น อ.ต.ก. เป็นกลไกสำคัญของประเทศไทย เพียงแต่ว่าในอดีตที่ผ่านมา ทำให้ อ.ต.ก. ประสบปัญหาการขาดทุนเกิดจากเหตุการณ์ในอดีต
“เดิมที อ.ต.ก. ไม่ได้ฟังก์ชั่นในเชิงธุรกิจมากนัก แต่เป็นฟังก์ขั่นของการช่วยเหลือกับกลไกทางด้านราคาในการเข้าไปแทรกแซงรักษาเสถียรภาพราคา ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในอดีต สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ จะใช้บุคลากรค่อนข้างมากทำให้เกิดค่าบริหารตามผลพวงขึ้นมา แต่เมื่อปิดฉาก "คดีจำนำข้าว" แล้ว ไม่มีนโยบายรัฐบาลมาให้มีการแทรกแซงด้านราคา หรือไปรับซื้อเพื่อรับ "จำนำ" สินค้าเกษตรอีก”
ส่วนอีกด้านหนึ่ง อ.ต.ก. ก็ถูกปรับลดเงินอุดหนุนจากรัฐบาล เมื่อไม่มีเงินอุดหนุนก็ทำให้ อ.ต.ก.ประสบกับปัญหาการขาดทุน ตั้งแต่ปี 2557 (หลังโครงการรับจำนำ) ขาดทุนกว่า 250 ล้านบาท แต่ถ้ารวมยอดขาดทุนสะสมตั้งแต่ 2517-2563 ขาดทุนสะสมกว่า 818 ล้านบาท
นายปณิธาน กล่าวอีกว่า การขาดทุน ต้องบอกว่าไม่ใช่ความผิดของ อ.ต.ก. แต่ว่าเราต้องแบกรับภาระจากการดำเนินงานตามนโยบาย ทางท่านรัฐมนตรีก็จะต่อสู้ เพื่อที่จะให้ อ.ต.ก.หลุดพ้นจากหนี้สินที่ อ.ต.ก.ไม่ได้ก่อ ซึ่งท่านก็มีมติในส่วนมติ ครม.เดิม ที่ทำให้ อ.ต.ก.เป็นหนี้ ก็จะให้ ครม. ทบทวนมติ
“ในส่วนหนี้สินที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากเราก็ต้องพยายามหาทางยุติกับเจ้าหนี้ให้ได้ ส่วนใหญ่เจ้าหนี้เป็นหน่วยงานภาครัฐด้วยกันเองก็จะต้องเร่งหาข้อยุติให้เร็วที่สุด กำลังเร่งรัด ผลักดัน “ล้างหนี้” ให้กับ อ.ต.ก. ซึ่งเป็นนโยบายของท่านอยู่แล้ว หากทำสำเร็จ ก็จะทำให้ อ.ต.ก. อาจจะพลิกกำไรได้ ในปี 2564
นายปณิธาน กล่าวอีกว่า “สินค้าเกษตร” ควรที่จะมีราคาแพง เพราะจะทำให้เศรษฐกิจในมหภาคของเราสามารถเติบโตได้ ซึ่งเราก็พยายามที่จะทำ 20-30 ปี อ.ต.ก. ใครบอกว่ามีสินค้าแต่ต่างประเทศให้ลองมาดู มีน้อยมาก ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศ เพียงแต่ว่าคุณภาพสูง หน้าตาดีเราก็พยายามเอาจุดนี้เป็นสิ่งที่เราไปสอนให้กับเกษตรกรตามนโยบาย “ตลาดนำการผลิต”