นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบทที่กำหนด พ.ศ.2564 ขณะนี้ทางกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) บูรณาการร่วมกันโดยเสนอรายละเอียดเส้นทางที่จะดำเนินการใช้กฎกระทรวงความเร็วรถใหม่ 120 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง เพื่อรายงานกระทรวงฯ ภายในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.นี้) คาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้เป็นรูปธรรมหลังจากผู้อำนวยการทางหลวง กรมทางหลวง (ทล.) เป็นผู้ออกประกาศดังกล่าว เบื้องต้นจะนำร่องบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 สายบางปะอิน–แยกหลวงพ่อโอ (ทางหลวงสายเอเชีย) ไม่เกิน 50 กม.แรก
“ขณะเดียวกันภายในวันที่ 15 มี.ค.นี้ ทางกระทรวงได้นัดทล.และทช. ประชุมคณะกรรมการเพื่อหาข้อสรุปถึงเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้เราได้สั่งการให้ทล.และทช.สำรวจพื้นที่ของถนนที่จะดำเนินการใช้กฎกระทรวงเพื่อติดตั้งป้ายจราจรกำหนดอัตราความเร็วบนท้องถนนและเส้นทางชะลอความเร็ว คาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 1 เดือน เบื้องต้นจะประสานงานร่วมกับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.)”
สำหรับเส้นทางที่จะดำเนินการใช้ตามกฎกระทรวงนั้น กำหนดให้ถนนแต่ละเส้นทางมีขนาดช่องจราจร 4 ช่องจราจร และต้องไม่มีจุดตัดเสมอระดับ หากเป็นเส้นทางที่มีทางคู่ขนานจะใช้รูปแบบการทำเครื่องหมายบนถนน ก่อนเข้าพื้นที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1.รถบรรทุกที่มีน้ำหนักรถเกิน 2,200 กิโลกรัม หรือรถบรรทุกคนโดยสารที่มีที่นั่งคนโดยสารเกิน 15 คน ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม./ชม. 2.รถชักจูง รถยนต์สี่ล้อเล็ก รถยนต์สามล้อ ไม่เกิน 65 กม./ชม. 3.รถจักรยานยนต์ ไม่เกิน 80 กม./ชม. 4.รถจักรยานยนต์ 400cc ขึ้นไป ไม่เกิน 110 กม./ชม. 5.รถโรงเรียน-รับส่งนักเรียน ไม่เกิน 80 กม./ชม. 6.รถโดยสาร 7-15 คน ไม่เกิน 100 กม./ชม. 7.รถแทรกเตอร์ รถบดถนน หรือรถใช้ในงานเกษตรกรรม ความเร็วไม่เกิน 45 กม./ชม. 8.รถยนต์ที่อยู่ในเลนขวาสุด ใช้ความเร็วไม่เกิน 100-120 กม./ชม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขับรถต้องรู้! กฎหมายกำหนดความเร็วรถใหม่ มีผลบังคับใช้แล้ว
เคาะเพิ่มความเร็วรถยนต์ไม่เกิน 120 กม./ชม.
ครม.ไฟเขียว กำหนดความเร็วรถ เหยียบคันเร่งได้ไม่เกิน 120 ก.ม./ ชั่วโมง