นายดวงสี พารายก กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานสะอาดรายใหญ่ใน สปป.ลาว เปิดเผยว่า แนวทางพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำต่อจากนี้ EDL-Gen มีนโยบายเปิดกว้างให้เอกชนผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) ร่วมลงทุนพัฒนาโครงการเพื่อดึงเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศ จากเดิมที่ EDL-Gen เป็นผู้ลงทุนพัฒนาโครงการเองทั้งหมด โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2572 EDL-Gen จะมีโรงไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 42 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,435 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ แบ่งเป็นโครงการที่ EDL-Gen ลงทุนและพัฒนาโครงการเอง รวม 18 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 974 เมกะวัตต์ และเป็นโครงการร่วมทุนกับ IPP จำนวน 24 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนถือหุ้นรวม 1,461 เมกะวัตต์ ช่วยผลักดันการดำเนินงานของ EDL-Gen ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว และสนับสนุน สปป.ลาว ผู้นำการผลิตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืนและมั่นคงในภูมิภาค รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
สำหรับ ณ สิ้นปี 2563 EDL-Gen มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมทั้งสิ้น 1,949 เมกะวัตต์ โดยเป็นโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว 27 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวมของโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว 1,683 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ EDL-Gen เป็นเจ้าของ 100% จำนวน 11 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 699 เมกะวัตต์ และโครงการร่วมภาคเอกชน จำนวน 16 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัดส่วนถือหุ้น 984 เมกะวัตต์ โดยไทยเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญของ EDL-Gen ที่มีสัดส่วนการซื้อไฟฟ้าจาก EDL-Genสูงถึง 42% ของปริมาณการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด
อย่างไรก็ดี การพัฒนาและบริหารโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำของ EDL-Gen ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้มาตรฐาน ISO14001 จากการนำทรัพยากรน้ำมาใช้ผลิตพลังงานสะอาด ผ่านเขื่อนที่มีกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าแบบให้น้ำไหลผ่านตลอดเวลา หรือ Run-off-the-river จึงไม่กระทบต่อปริมาณและคุณภาพน้ำทั้งด้านเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน รวมถึงคุณภาพชีวิตสัตว์น้ำในลุ่มน้ำโขง และควบคุมเสียงไม่ให้กระทบต่อชุมชน ทำให้บริษัทฯ สามารถใช้ประโยชน์จากการบริหารจัดการด้านทรัพยากรทางธรรมชาติ มาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สังคมและความเป็นอยู่ของประชาชนใน สปป.ลาว ที่ดี
“บริษัทมีเป้าหมายผลักดัน สปป.ลาว ให้เป็นผู้นำการผลิตพลังงานสะอาดที่ยั่งยืนและมั่นคงในภูมิภาค เพื่อป้อนความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยมุ่งนำความเชี่ยวชาญมาพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ซึ่งมีต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้าต่ำ ยั่งยืน และไม่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม สอดรับกระแส Green Energy ของโลก โดยใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ มาผลิตกระแสไฟฟ้าสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ภูมิภาคอาเซียน”
นายสุเทพ เลิศศรีมงคล อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ของ สปป.ลาว และนักวิชาการ EGAT กล่าวว่า สปป.ลาว มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำรายใหญ่ในภูมิภาคนี้ ซึ่งประเมินว่าภายในปี 2573 สปป.ลาว จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวมทั้งสิ้น 21,000 เมกะวัตต์ จากศักยภาพการผลิตทั้งหมดของทั้งประเทศที่คาดว่าจะผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า 30,000 เมกะวัตต์ในระยะยาว เนื่องจากลักษณะพื้นที่ของประเทศมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและมีแม่น้ำหลายสายนำมาพัฒนาโครงการได้ รวมถึงนโยบายของภาครัฐยังเปิดกว้างให้เอกชนผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระร่วมลงทุน จึงเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทภาคเอกชนไทยเข้าร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าได้มากขึ้น
ขณะที่ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยแต่ละประเทศมีแผนบริหารจัดการด้านความมั่นคงของพลังงาน ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่พึ่งพิงพลังงานไฟฟ้าจาก สปป. ลาว เป็นจำนวนมาก โดยจากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศปี 2561-2580 (PDP 2018) ประเทศไทยสามารถรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านได้อีก 3,500 เมกะวัตต์ ซึ่งยังสามารถซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ได้อีก 3,000 เมกะวัตต์ และจะเหลือสัดส่วนที่รับซื้อจากประเทศอื่นๆ อีก 500 เมกะวัตต์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :