"กนอ."เร่งหาสาเหตุไฟไหม้โรงงานย่านลาดกระบัง-คุมเข้มมาตรการเฝ้าระวัง

07 ก.ค. 2564 | 04:16 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ค. 2564 | 11:15 น.

กนอ.เร่งหาสาเหตุเพลิงไหม้โรงงานบริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่ง กรุ๊ป จำกัด ย่านลาดกระบัง พร้อมคุมเข้มมาตรการเฝ้าระวัง หวั่นเกิดเหตุซ้ำ พร้อมสั่งการให้โรงงานระงับการประกอบกิจการชั่วคราว

นายวีริศ  อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการสั่งการให้ กนอ. ส่งเจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีบริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่ง  กรุ๊ป จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 ถนนฉลองกรุง แขวงลำปลาทิว  เขตลาดกระบัง กทม. ไฟไหม้ พร้อมดูแลผลกระทบคุณภาพชีวิตของชุมชน และผู้ประกอบการโรงงาน โดยจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวประกอบกิจการผลิตแชมพู สบู่ เจลอาบน้ำ โลชั่นทาผิว แอลกอฮอล์ และเจลล้างมือ และเม็ดพลาสติก โดยมีพื้นที่กว่า 4 ไร่ หรือ ประมาณ 7,960 ตารางเมตร มีพนักงานประมาณ 130 คน  โดยเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นบริเวณคลังเก็บสินค้า และวัตถุดิบ ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ได้ประสานไปยังสถานีดับเพลิง และนักผจญเพลิง ให้เข้าดำเนินการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน โดยสามารถควบคุมเพลิงได้ภายใน 3 ชั่วโมง (เวลา 20.13 น.) ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นอาคาร  2 ชั้น ด้านข้างมีถังเก็บสารเคมีกลุ่มแอลกอฮอล์ ประมาณ 70,000 ลิตร โดยอยู่ระหว่างการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ต้องรอให้มีการตรวจสอบรายละเอียดก่อน

ขณะที่น้ำที่ใช้ในการระงับเหตุเพลิงไหม้ กนอ.ได้ทำการปิดกั้นลำรางระบายน้ำฝนภายในและบริเวณโดยรอบโรงงาน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่เกิดจากการดับเพลิงรั่วไหลออกสู่ภายนอกโรงงาน และให้บริษัทฯ เร่งบำบัดให้ได้ตามมาตรฐานที่ กนอ.กำหนดต่อไป

วีริศ  อัมระปาล ผู้ว่า กนอ.
“กนอ.อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 สั่งการให้บริษัทฯ หยุดประกอบกิจการและปรับปรุงแก้ไขโรงงาน ซึ่งหลังจากนี้บริษัทฯต้องยื่นเอกสารแสดงผลการปรับปรุงอาคารโรงงานและตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างอาคารและตรวจสอบความปลอดภัยของระบบอุปกรณ์ภายในโรงงาน ที่ต้องผ่านการรับรองจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญและจัดส่งให้ กนอ. พิจารณาตรวจสอบก่อน”

อย่างไรก็ตาม ภายหลังสามารถควบคุมเพลิงได้ ตนได้เรียกประชุมย่อยผู้เกี่ยวข้องในทันที หลังลงพื้นที่สังเกตการณ์ พร้อมสั่งการให้เร่งทบทวนมาตรการป้องกันต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยด่วน ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกต้องดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและเกิดความเสียหายให้น้อยที่สุด เนื่องจากสิ่งที่ดำเนินการอยู่นั้นอาจยังไม่เพียงพอกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่า ยังสามารถใช้งานได้อย่างปกติ และมีเพียงพอหรือไม่ เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการสร้างความมั่นใจกับให้ชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมอีกด้วย 
อย่างไรก็ดี ในเวลา 14.30 นวันนี้ (7 ก.ค.64) นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ.จะลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายพื้นที่ไฟไหม้อีกครั้ง