รถตรวจเชื้อพระราชทาน2คันลง"ตลาดศรีเมือง"สู้โควิดราชบุรี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย แก่สำนักงานควบคุมโรคที่ 5 จ.ราชบุรี เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทางจังหวัดส่งลงพื้นที่ตลาดศรีเมือง สู้การระบาดเชื้อโควิด-19
วันที่ 16 ก.ค. 2564 ที่ตลาดค้าส่งผักและผลไม้ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมคณะ รับมอบรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน จำนวน 2 คัน ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อชาวจังหวัดราชบุรี ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ทรงคำนึงถึงความยากลำบากของราษฎรในการเข้ารับการบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้พระราชทานรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย จำนวน 2 คัน ใช้ในการตรวจค้นหา คัดกรองเชิงรุก เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
โดยสำนักงานควบคุมโรคที่ 5 จ.ราชบุรี จะนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่จังหวัดที่รับผิดชอบ 8 จังหวัด รวมถึงจังหวัดราชบุรี ที่กำลังพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคโควิด 19
สำหรับรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน ทั้ง 2 คันนี้ จะประจำอยู่ที่ตลาดค้าส่งผักและผลไม้ หรือตลาดศรีเมือง เพื่อตรวจหาเชื้อเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้เข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็ว ง่ายต่อการเข้าถึงบริการ ซึ่งการตรวจแต่ละคนจะใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาที ซึ่งทั้ง 2 คัน สามารถตรวจได้มากกว่า 1,000 ตัวอย่างต่อวัน
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จังหวัดราชบุรี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ที่ห้องประชุมแม่กลอง ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดราชบุรี นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดราชบุรี โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี นายอำเภอทั้ง 10 อำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ติดตามการดำเนินงานการปฏิบัติเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคโรคโควิด 19
วาระที่สำคัญวันนี้คือ การพิจารณาเปิดโรงพยาบาลสนาม วาสนาดี ซีแคมป์ อ.เมือง จ.ราชบุรี และพิจารณาโครงการป้องกันหรือยังยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโรคติดเชื้อโควิด-19 เพื่อจัดหาสถานที่ควบคุม เพื่อสังเกตอาการ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ ที่บ้านไม้แก้ว ซอยแม้นรำลึก 1 ต.หน้าเมือง อ.เมืองจ.ราชบุรี ระหว่างวันที่ 17 กรกฎาคม ถึง 14 กันยายน 2564 ระยะเวลา 60 วัน เพื่อรองรับบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 300 คน
รวมทั้งพิจารณามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ตลาด และพิจารณาคำสั่งปิดสถานที่ชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ได้แก่ การปิดตลาดเอกชนริมน้ำ ในพื้นที่อ.บ้านโป่ง และการห้ามผู้ประกอบการ ที่ตั้งวางและจำหน่ายสินค้าบนผิวจราจร หรือจอดรถเพื่อจำหน่ายสินค้าบนผิวจราจร จำหน่ายสินค้าบนผิวจราจร ในพื้นที่บริเวณถนนใน อ.บ้านโป่ง 7 จุด
เมื่อช่วงสายวันเดียวกัน นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยแพทย์หญิงปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และ นายพิสุทธิ์ คงขำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 4 ของอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมสำหรับรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตลอดจนร่วมแรงและร่วมใจในการจัดสิ่งของ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย ที่จะเข้ามาพักรักษาตัวภายในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้
ขณะที่ผู้มีจิตศรัทธาต่างนำสิ่งของมาบริจาคเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนาม อาทิ น้ำดื่ม อาหารแห้ง พัดลม เครื่องสาธารณูปโภค สิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ป่วย เพื่อเตรียมพร้อมรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดราชบุรี
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่จังหวัดราชบุรี ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 8 ก.ค. - 14 ก.ค. 64 จังหวัดราชบุรี พบผู้ป่วยยืนยันระลอกใหม่เดือนเมษายน จำนวน 736 ราย เสียชีวิต 8 ราย รวมระลอกใหม่เดือนเมษายน สะสม 2,672 ราย ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสะสม 1,267ราย รักษาหายสะสม 1,373 ราย เสียชีวิตสะสม 32 ราย
โดยพบผู้ป่วยโควิด-19 สัปดาห์นี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยจากคลัสเตอร์ต่าง ๆ ภายในจังหวัด ตลอดจนกระจายไปสู่ภายในครอบครัว ชุมชน จึงขอให้ประชาชนอย่าการ์ดตก ระมัดระวังตนเองและคนภายในครอบครัวโดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็ก จึงขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ไม่มีความจำเป็นไม่ควรออกนอกบ้าน งดงานเลี้ยงสังสรรค์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด19 ป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู่คนในครอบครัว ในสถานที่ทำงาน และป้องกันการแพร่ระบาดขยายเป็นวงกว้างซึ่งจะทำให้ยากแก่การควบคุมโรค
