ปชช.แห่นำไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันกู้เงิน สู้วิกฤติโควิด กว่า1.25แสนต้น

25 ก.ค. 2564 | 02:24 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2564 | 09:32 น.

“พาณิชย์” ชี้ประชาชนแห่นำ ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันกู้เงินได้ กว่า 125,911 ต้น มูลค่า 134 ล้านบาท  ด้าน“ จุรินทร์”สั่งเร่งแจ้งประชาชนเพื่อโอกาสในการใช้ประโยชน์หวังช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันการกู้เงิน ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ในการเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสในการนำทรัพย์สินมาเป็นหลักประกันโดยกำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถนำทรัพย์สินทั้งสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจมาใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้โดยไม่ต้องส่งมอบการครอบครองทรัพย์สิน ทำให้ผู้ประกอบการยังคงใช้ทรัพย์สินนั้นได้ต่อไป เป็นการลดข้อจำกัดในการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน

ปชช.แห่นำไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันกู้เงิน  สู้วิกฤติโควิด กว่า1.25แสนต้น

 โดยทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันได้ ตามกฎหมาย คือ 1. กิจการ 2. สิทธิเรียกร้อง เช่น สิทธิการเช่า ลูกหนี้การค้า  3. สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น สินค้าคงคลัง วัตถุดิบ 4. อสังหาริมทรัพย์ เฉพาะกรณีที่ผู้ให้หลักประกันประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง 5. ทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า และ 6.ทรัพย์สินอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ไม้ยืนต้น)

ปชช.แห่นำไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันกู้เงิน  สู้วิกฤติโควิด กว่า1.25แสนต้น

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดให้ ไม้ยืนต้นเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันได้ โดยประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งไม้ยืนต้นทุกชนิดใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินได้ ขึ้นอยู่กับคู่สัญญาจะตกลงกันว่าจะใช้ไม้ยืนต้นประเภทใดหรือชนิดใดเป็นหลักประกัน

“กรมพัฒน์มีหน้าที่เป็นสำนักงานทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ รับจดทะเบียนสัญญาหลักประกัน แก้ไขการจดทะเบียน และยกเลิกการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ ตามที่สถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้รับหลักประกันนั้นเป็นผู้ให้วงเงินสินเชื่อ และทำสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ”

ปชช.แห่นำไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันกู้เงิน  สู้วิกฤติโควิด กว่า1.25แสนต้น

ดังนั้น ตามกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจจึงเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากขึ้น สามารถนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าอื่นที่ใช้ในการประกอบธุรกิจมาเป็นหลักประกันการชำระหนี้ได้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินนั้น

ปชช.แห่นำไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันกู้เงิน  สู้วิกฤติโควิด กว่า1.25แสนต้น

สำหรับไม้ยืนต้นทุกชนิด ที่ใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินได้ เมื่อติดตามดูข้อมูล ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2564 สถิติการจดทะเบียน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ ได้จดทะเบียนไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันแล้ว จำนวน 125,911 ต้น จำนวนเงินที่เป็นหลักประกัน 134,829,112 บาท โดยส่วนใหญ่ใช้ไม้ยืนต้นประเภท ยาง ยางนา ยางพารา สัก มะขาม มะกอกป่า สะเดา ตะโก เป็นต้น 

ปชช.แห่นำไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันกู้เงิน  สู้วิกฤติโควิด กว่า1.25แสนต้น

นอกจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารกรุงไทยที่รับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันแล้ว ยังมีผู้รับหลักประกันอื่นใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกัน จำนวน 5 ราย โดยผู้รับหลักประกันอื่นที่รับไม้ยืนต้นส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ (สินเชื่อรายย่อยอเนกประสงค์) วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ต่อราย และพิโกพลัส  (สินเชื่อรายย่อยอเนกประสงค์) วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อราย

ปชช.แห่นำไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันกู้เงิน  สู้วิกฤติโควิด กว่า1.25แสนต้น

 อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ให้กรมพัฒนาฯให้ข้อมูลประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์และเป็นโอกาสของประชาชนในภาวะวิกฤต ซึ่งนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด  โดยข้อมูล ณ ปัจจุบัน (23 กรกฎาคม 2564) มีการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกัน จำนวน 32,133 ต้น จำนวนเงินที่เป็นหลักประกัน 4,559,112 บาท