นม รร. ปี 65 ฟัดเดือด ชิงเค้ก 1.6 หมื่นล้าน จ่อชง ครม.-ม.3

 พลิกแฟ้ม โครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน หรือ “นมโรงเรียน” เกิดขึ้นในปี 2535 ในรัฐบาล นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ในปีแรกรัฐบาลจัดงบประมาณนมโรงเรียนให้แก่เด็กอนุบาลเป็นเงิน 278.60 ล้านบาท เด็กได้ดื่มนม 120 วันต่อปี ต่อมาได้มีการเพิ่มจำนวนเด็กนักเรียนดื่มตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพิ่มจำนวนวันซื้อนมโรงเรียนในโครงการเป็น 230 วัน

 

ต่อมาในปี 2552 ขยายชั้นเรียนและได้รับงบประมาณนมโรงเรียนจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และเพิ่มระยะเวลาของโครงการเป็น 260 วัน ใช้งบประมาณปัจจุบัน 1.4 หมื่นล้านบาทต่อปี รวมเด็กนักเรียน จำนวน 8.4 ล้าน (เด็ก ร.ร.รัฐบาล 7.1 ล้านคน และเด็ก ร.ร.เอกชน 1.3 ล้านคน)

 

ล่าสุด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมชง คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอขยายชั้นเรียนเด็กได้ดื่มนมโรงเรียนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเพิ่มจาก 260 เป็น 365 วัน คาดจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมในเดือนกันยายนนี้

 

 

นายชัชวาลย์ มณีทัพ นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์น้ำนมดิบในประเทศไทย หากประเมินสถานการณ์ดื่มนมโรงเรียนเพิ่มเป็น 365 วัน  ยังไม่แน่ใจว่าจะได้เพิ่มหรือไม่ หากได้ผู้ประกอบการที่ใช้น้ำนมดิบมาขอโควตานำเข้านมผงอาจจะนำน้ำนมดิบก้อนนี้ไปขอโควตานมโรงเรียนเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าจะหันไปทำเอ็มโอยูนมโรงเรียนเพิ่มขึ้น ขณะปี 2563/2564 มีโรงงาน/สหกรณ์สมัครเข้าร่วม 1664.133 ตันต่อวัน ขณะที่นมโรงเรียนใช้จริง 1,045.353 ตันต่อวัน แต่ก็มองว่าภาวะวิกฤติโควิดแบบนี้หากมีคนดึงเอาส่วนนี้ไปช่วยถือเป็นเรื่องดี

 

 

“ส่วนการเพิ่มเด็กดื่มนมโรงเรียนถึง ม.3 มองว่าเป็นเรื่องยาก เพราะต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติม แต่ถ้าได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่กติกาเดิมใครที่นำน้ำนมดิบไปขายนมโรงเรียนแล้ว หากไม่ได้จะนำกลับมาขายสมาคมไม่ได้ ต้องเลือกข้างว่าจะขายนมโรงเรียนหรือนมพาณิชย์ ปีนี้ทางผู้ใหญ่อยากให้ยืดขยายเวลาออกไปเพื่อให้แมชชิ่งกับนมโรงเรียน มองแล้วว่าไม่เป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ ซึ่งทางสมาคมยืนยันแล้วจะทำเอ็มโอยูในวันที่ 30 กันยายนนี้”

 

ด้านนายณัฐวุฒิ ประทีปะวณิช กรรมการในคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม หรือมิลค์บอร์ด และที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัดกล่าวว่า ได้เสนอผ่านมิลค์บอร์ดอยากให้ตรวจสอบน้ำนมดิบทั้งประเทศ โดยใช้ระบบแอพลิเคชั่น ติดที่ศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ หรือติดถังมิเตอร์น้ำนม ทั่วประเทศ แล้วซีลล็อกไว้เลย ใครเทนมเช้า-เย็นเท่าไร 3 ทุ่ม ทราบปริมาณน้ำนมดิบทั้งประเทศทุกวัน  แต่ถ้านำนมดิบมาเติมเวียนแบบย้อมแมว ระบบก็จะฟ้อง ซึ่งแอพลิเคชั่นมีอยู่แล้ว มี อ.ส.ค. และศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบหลายแห่งได้ติดตั้งแล้ว ต้นทุนต่อศูนย์ประมาณ 8 หมื่นบาท และค่าดูแล 2.5-3 หมื่นบาทต่อปี ต่อไปปัญหานมลม นมฟอกเอ็มโอยู หรือไซฟ่อนนม จะไม่เกิดขึ้น

 

 

ด้านนายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมชง ครม.เพื่อขอขยายนมโรงเรียนถึงชั้น ม.3 และเพิ่มวันได้ดื่มนมจาก 260 เป็น 365 วัน คาดจะใช้งบประมาณร่วม 2,000 ล้านบาท (รวมงบโรงเรียนเดิมเพิ่มเป็น 1.6 หมื่นล้านต่อปี) จากคาดจะมีเด็กนักเรียนเพิ่มอีกประมาณ 1 ล้านคน คาดกระทรวงเกษตรฯ จะนำเข้าครม.ประมาณ กลางเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้มีผลในปีการศึกษา 2565 ทันที

 

นายวสันต์ จีนหลง นายกสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ กล่าวถึง โรงงานนมขนาด 5 ตัน ที่มีโรงนมเอกชน/สหกรณ์ แตกสาขา เพื่อเข้าร่วมนมโรงเรียน ตอนนี้กำลังหารือกันอยู่ถึงสถานะว่าจะมีแต้มต่อหรือไม่ เพราะปัจจุบันที่เกิดปัญหาจากไปให้แต้มต่อ ดังนั้น ถ้าให้เกิดความเป็นธรรมต้องไม่มีแต้มต่อ อาทิ โรงงาน 5 ตันต่อวันได้จัดสรรพื้นที่และโควตาก่อนลำดับแรก ส่วนน้ำนมดิบที่เหลือ ให้โรงอื่นนำไปหารเฉลี่ยกันเอง เป็นต้น ผลกระทบเกิดขึ้นแล้ว ปัญหาโรงงาน 5 ตัน ก็ยังอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องศาลปกครองกลาง คดียังไม่จบ

 

 

 

หน้า 4 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,701 วันที่ 1 - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2564