นายสุนทร รักษ์รงค์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผลการประชุมระชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ…. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ได้พิจารณาครบทุกมาตรา ขั้นตอนต่อไปต้องเสนอขอมติจากสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา เมื่อผ่านแล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษาจึงจะมีผลบังคับใช้
“ผมและศ.ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ต่อสู้อย่างเต็มที่ร่วมกับกรรมาธิการท่านอื่น จนทำให้ ร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อมในชั้นกรรมาธิการ ได้รับการปลดล็อกอย่างเสรี ปลูกได้ไม่จำกัดจำนวน ไม่ต้องขออนุญาต ไม่มีปริมาณพกพา หรือซื้อขาย การบริโภคด้วยวิถีชุมชนทั้งใบสดและน้ำต้มกระท่อมสามารถกระทำได้ไม่ผิดกฎหมาย”
แต่มีข้อกำหนดในการขออนุญาตนำเข้าและส่งออกเท่านั้น การทำผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมต้องขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร ยา และสมุนไพร ห้ามขายใบกระท่อมและน้ำกระท่อมแก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร และกำหนดโทษกรณีการนำพืชกระท่อมไปผสมยาเสพติด เพื่อป้องกันและควบคุมการใช้พืชกระท่อมในทางที่ผิด
นายสุนทร กล่าวว่า ส่วนตัวกับ ดร.กนก ต่อสู้ยกสุดท้ายเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกร กรณีการเอื้อผลประโยชน์ให้นายทุนโฆษณาผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมที่ได้ขออนุญาตผลิตเป็นอาหาร สมุนไพร และยา จาก อย.ได้ แต่กลับห้ามเกษตรกรโฆษณาใบกระท่อมและน้ำต้มกระท่อม รวมถึงต้นพันธุ์ วิธีการปลูกดูแลรักษา ซึ่งรวมถึงการห้ามโฆษณาทางสังคมออนไลน์ด้วย สัประยุทธ์กันใช้เวลาหลายชั่วโมง พักเบรกกันหลายครั้ง สุดท้ายกรรมาธิการเสียงข้างมากชนะ ทั้งนายทุนและเกษตรกรโฆษณาได้อย่างเสรี ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
อย่างไรก็ดีอยากจะฝากพี่น้องชาวสวนยางที่รัก กระท่อมจะกลายเป็นพืชร่วมยางที่น่าสนใจที่สุด ชาวสวนยางจะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับราคายางผันผวน กระท่อมจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล ภาวนาให้มีนายทุนมาลงทุนทำโรงงานผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมทั้งที่เป็นอาหาร สมุนไพร และยา เพื่อการส่งออก กันมากๆ เกษตรกรแค่ปลูกอย่างเสรี ผลิตใบกระท่อมขายให้โรงงานก็หรูแล้วครับ เราทำธุรกิจแข่งกับพ่อค้ายาก แต่ถ้ามีเกษตรกรกลุ่มใดสามารถทำผลิตภัณฑ์ได้ ขออนุญาต อย.ได้ ยิ่งดีเข้าไปใหญ่
กรณี พ.ร.บ.พืชกระท่อม บังคับใช้ไม่ทัน 24 สิงหาคม 2564 (คงไม่ทัน) พืชกระท่อมจะไม่มีข้อกำหนดใดๆ ก็จะเป็นเหมือนผักบุ้ง ต้นมะม่วง ชั่วคราว เข้าใจตรงกัน