รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะประธานกรรมการสรรหาผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)ได้ลงนามในประกาศองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศ เรื่อง การรับสมัครบุคคลเพื่อรับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่ง ผอ.อ.ส.ค. แทนดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ที่ได้ดำรงตำแหน่งครบวาระไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยนั้นได้แต่งตั้งนายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการ อ.ส.ค.จนถึงปัจจุบัน
สำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นผู้ที่จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ อ.ส.ค. ได้กำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นจะต้องเป็นบุคคลที่มีอายุไม่เกิน 58 ปีบริบูรณ์ในวันยื่นใบสมัครไม่เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นและจะต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง ไม่เป็นหรือภายในระยะเวลาสามปีก่อนวันได้รับแต่งตั้ง ไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจในการจัดการ หรือมีส่วนได้เสียในนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้รับสัมปทาน ผู้ร่วมทุน หรือมีประโยชน์ได้เสียเกี่ยวข้องกับกิจการขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย เว้นแต่การเป็นประธานกรรมการ หรือกรรมการในนิติบุคคลดังกล่าว โดยการมอบหมายขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
ในกรณีเป็นข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ ของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานของรัฐฯ หรือเป็นผู้บริหาร พนักงานรัฐวิสาหกิจอื่น หรือกิจการอื่นที่แสวงหากำไร จะต้องลาออกจากราชการ หน่วยงาน หรือองค์กรนั้น ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการ
ส่วนด้านคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งจะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ หรือมีประสบการณ์ด้านบริหารทั่วไป หรือด้านธุรกิจ หรือด้านการตลาด หรือด้านการอุตสาหกรรม รวมทั้งความรู้ด้านเศรษฐกิจ สังคม และนโยบายรัฐบาล และวิสัยทัศน์ด้านการบริหารจัดการองค์กรไปในทิศทางและเป้าหมายตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ อ.ส.ค. หรือหากเคยเป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กรภาครัฐหรือภาคเอกชน โดยนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรวมกันไม่น้อยกว่า 1 ปี จนถึงวันยื่นใบสมัครภายใต้เงื่อนไข
กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารส่วนราชการ ต้องดำรงตำแหน่ง ไม่ต่ำกว่าระดับผู้อำนวยการกอง/สำนัก หรือเทียบเท่า กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ ต้องดำรงตำแหน่ง ไม่ต่ำกว่าระดับผู้ช่วยผู้อำนวยการ หรือเทียบเท่า กรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานอื่นของรัฐ ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับผู้อำนวยการกอง/สำนักหรือเทียบเท่าและกรณีที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารจากหน่วยงานภาคเอกชน ต้องดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่ารองผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีรายได้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี โดยต้องมีเอกสารรับรองการดำรงตำแหน่ง งบการเงิน รายงานประจำปี และแผนผังแสดงตำแหน่งงานในขณะที่ดำรงตำแหน่งมาแสดงด้วย ส่วนด้านคุณวุฒิการศึกษา จะต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี
ส่วนด้านเงื่อนไขการจ้างและค่าตอบแทน ได้กำหนดให้ผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่ง ผอ. อ.ส.ค. มีวาระอยู่ในตำแหน่งตามสัญญาจ้างคราวละไม่เกิน 4 ปี หรือเมื่อมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แล้วแต่วาระใดจะถึงก่อน ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดตามสัญญาจ้าง หากผู้ผ่านการสรรหาเป็นผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ยังมีอายุไม่ครบ 60 ปีบริบูรณ์ และคณะกรรมการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย พิจารณาเห็นว่ามีผลการทำงานดี มีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ อ.ส.ค. อาจได้รับการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งเป็น ผอ. อ.ส.ค.ได้ต่อไป โดยไม่ต้องดำเนินกระบวนการสรรหาใหม่ แต่จะจ้างไม่เกินสองคราวติดต่อกัน โดยกำหนดการรับสมัครระหว่างวันที่ 9 – 31 สิงหาคม 2564 ในวัน และเวลาทำการระหว่างเวลา 08.30 น.-16.30 น. (เว้นวันหยุดราชการ)
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาเป็นผู้บริหารคนใหม่ของ อ.ส.ค. เน้นคนที่เป็นนักบริหารมืออาชีพ เนื่องจากเป็นผู้ที่ต้องมีความสามารถและมีบทบาทสูงในการขับเคลื่อน อ.ส.ค. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ทำกำไรนำส่งกระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่องทุกปี และกำลังขับเร่งเคลื่อนองค์กรตามแผนวิสาหกิจ 5 ปีซึ่งจะสิ้นสุดแผนในปี 2564
“การเข้ามาจึงถือเป็นการประเดิมความสามารถและศักยภาพของผู้อำนวยการ อ.ส.ค. คนใหม่ในการเร่งผลักดัน อ.ส.ค.สู่เป้าหมายให้สำเร็จภายในปี 2564 อาทิ 1.ยอดขายต้องเติบโตไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท 2.สร้างแบรนด์ให้เป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคชาวไทย หรือ Top of Mind 3.เป็นศูนย์กลางด้านองค์ความรู้อุตสาหกรรมโคนม 4.ยกระดับบริหารจัดการรองรับการแข่งขันในอนาคต ตลอดจนต้องรักษาส่วนแบ่งตลาด(Market Share)นมยูเอชทีซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไว้ตลอด โดยปัจจุบันนมไทย-เดนมาร์คหรือนมวัวแดงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ครองใจผู้บริโภคอย่างเหนียวแน่นและอยู่คู่คนไทยมากว่า 60 ปี การสรรหาผอ.อ.ส.ค.ในครั้งนี้ถือเป็นการประกาศสรรหาเป็นครั้งที่ 3หลังจากก่อนหน้านี้ประกาศสรรหาไปแล้ว แต่ไม่มีบุคคลใดผ่านคุณสมบัติจึงต้องประกาศสรรใหม่ขึ้นอีกครั้ง” นายวิศิษฐ์ กล่าว