วันที่ 4 กันยายน 2564 หลังจากที่หลายหน่วยงานเข้ารับซื้อผลผลิตลองกอง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อช่วยระบายผลผลิตที่ประสบปัญหาการส่ง และแก้ปัญหาราคาตกต่ำ นายกัสมัน ยะมาแล เกษตรจังหวัดนราธิวาส เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จากการคาดการณ์ช่วงต้นฤดู ลองกองนราธิวาสปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิตประมาณ 4,200 ตัน โดยเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
แต่พอถึงช่วงที่ผลผลิตเริ่มออกดอก เกิดการเปลี่ยนแปลงของอากาศ และมีฝนค่อนข้างมาก ทำให้ผลผลิตลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และช่วงที่ผลผลิตใกล้จะสุกก็มีฝนตกลงมา ทำให้ผลผลิตของเกษตรกรได้รับความเสียหาย คือผลแตกประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สุดท้ายผลผลิตที่เหลืออยู่ประมาณ 3,000 ตันเศษ ซึ่งปริมาณที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
“แม้ว่าผลผลิตใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่ฝนที่ทำให้ผลผลิตร่วง และแตกเสียหาย ทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่มีคุณภาพคือจะไม่เป็นช่อสวยงาม กลายเป็นผลร่วง ทำให้การทำตลาดค่อนข้างยากและไม่ได้ราคา”
นายกัสมัน กล่าวและว่า ทำให้ผลผลิตที่ขายได้ราคา หรือจัดเป็นเกรด A B C ได้ ไม่เยอะ ที่เหลือกลายเป็นผลผลิตตกเกรด ซึ่งไม่สามารถส่งออกขายนอกพื้นที่ได้ ขายได้เฉพาะในตลาดท้องถิ่นทั่วไป เพราะเป็นผลร่วง
ขณะเดียวกันผลผลิตที่สามารถคัดเกรดได้ ราคาในปีนี้ก็ไม่ได้สูงมาก โดยราคาค่อนข้างจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากการกระจายผลผลิตค่อนข้างลำบาก ทั้งเรื่องการขนส่ง เรื่องของพ่อค้าจากนอกพื้นที่เข้ามารับซื้อน้อยลง
“ปีนี้ผลผลิตลองกองเกรด A เฉลี่ยราคาอยู่ที่ประมาณ 25 บาทต่อกิโลกรัม เกรด B ราคาอยู่ที่ประมาณ 18-19 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนเกรด C ราคาก็ตกไปอยู่ที่ 8-10 บาทต่อกิโลกรัม ราคาลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์”
สรุปแล้วผลผลิตลองกองในปีนี้ของจังหวัดนราธิวาส ไม่ดีทั้งปริมาณผลผลิตและคุณภาพ ทำให้รายได้ของเกษตรกรที่ได้รับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้
เกษตรจังหวัดนราธิวาส ยังกล่าวอีกว่า ในปีนี้ผลผลิตลองกองจะออกพร้อมกันทั้งภาคใต้ จากเดิมที่ลองกองจังหวัดนราธิวาสจะออกผลผลิตหลังสุด แต่จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
“จังหวัดนราธิวาสอยู่ใต้สุด การขนส่งทั้งไปรษณีย์เอง ทั้งภาคเอกชนเองบางช่วงก็ปิดรับ ทำให้เกษตรกรที่สามารถจำหน่ายทางออนไลน์ได้เมื่อปีก่อนปีนี้ก็มีปัญหาการขนส่งไปยังลูกค้าปลายทางได้”
ส่วนการเปิดให้ขบวนรถไฟขบวนพิเศษเข้ามาขนส่งก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ปัญหาการส่งทางรถไฟก็คือ ไม่สามารถส่งสินค้าไปยังลูกค้าที่บ้านได้ ลูกค้าจะต้องมารับสินค้าที่สถานีเอง
สำหรับผลผลิตลองกองที่ออกสู่ตลาดมากที่สุด เดิมจะออกในช่วงเดือนกันยายนตลอดทั้งเดือน แต่ปีนี้เนื่องจากสภาพอากาศฝนที่ตกลงมาก่อนช่วงเดือนกันยายนประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ผลลองกองสุกเร็วขึ้นประมาณ 20 วัน
ฉะนั้นในปีนี้ ผลผลิตลองกองที่ออกสู่ตลาดจะขยับเร็วขึ้น คิดว่าผลผลิตลองกองในปีนี้น่าจะหมดช่วงประมาณวันที่ 20 กันยายนที่จะถึงนี้แล้ว