นางพนิดา ทองสุข รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร รักษาการแทน ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือ ศบค. มีมติผ่อนคลายล็อกดาวน์ให้ดำเนินการกิจการกิจกรรมบางส่วน ให้สามารถดำเนินการได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นมา ส่งผลให้ผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ ขสมก. มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนคน จากเดิม ก่อนมีมติผ่อนคลายกิจกรรม ขสมก. มีผู้ใช้บริการ เฉลี่ยวันละ 3 แสนคน หลังจากมีมติผ่อนคลายกิจกรรม ขสมก. มีผู้ใช้บริการ เฉลี่ยวันละ 4 แสนคน โดย ขสมก. ได้มีการขยายเวลาปล่อยรถโดยสารคันสุดท้าย ออกจากท่าปลายทาง จากเดิม เวลา 20.00 น. เป็นเวลา 21.00 น. เพื่อรองรับประชาชนที่ทำงานอยู่ในสถานประกอบกิจการ ที่ได้รับการผ่อนคลายกิจกรรม อาทิ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการได้ถึงเวลา 20.00 น. ในส่วนของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
ทั้งนี้ขสมก. ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ตามแนวทางที่ ศบค. กำหนดอย่างเคร่งครัด รวมทั้ง ได้นำพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร กว่า 13,000 คน หรือคิดเป็น 95 % ของพนักงานทั้งหมด เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ดังนั้น ขอให้ประชาชนผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่า รถโดยสารประจำทางของ ขสมก. มีความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด -19 อย่างแน่นอน