ฐานเศรษฐกิจ นำคุณผู้อ่านมารู้จักโครงการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว กับ "คลินิกแก้หนี้" เนื่องสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ทำให้ประชาชนหลายคนรายได้หดหาย ตกงาน ไม่มีกำลังที่จะชำระหนี้ ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล
ทั้งนี้ โครงการคลีนิกแก้หนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี2560 โครงการคลินิกแก้หนี้ ระยะที่ 1 เกิดขึ้นจากความคิดริเริ่มของ "ธนาคารแห่งประเทศไทย" ด้วยความร่วมมือจากสมาคมธนาคารไทย และสมาคมธนาคารนานาชาติ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ค้างชำระอยู่กับธนาคารเจ้าหนี้ให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินได้เบ็ดเสร็จครบวงจรในที่เดียว
ธนาคารเจ้าหนี้ 16 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ มอบหมายให้ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เป็นหน่วยงานกลางเชื่อมโยงระหว่างลูกหนี้และเจ้าหนี้ทุกราย ควบคู่กับการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการวางแผนและวินัยทางการเงินที่ดี เพื่อสร้างค่านิยมที่ถูกต้องด้านการลดความฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย และสร้างเสริมสุขภาพทางการเงินที่ดีให้แก่คนรุ่นใหม่ในสังคม นำไปสู่การลดปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ต่อมาปี 2562 โครงการคลินิกแก้หนี้ ระยะที่ 2 ขยายขอบเขตให้รวมลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของผู้ประกอบการ non-bank 19 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกหนี้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เริ่มตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป ทำให้โครงการคลินิกแก้หนี้สามารถทำหน้าที่เป็นกลไกในการแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างได้อย่างกว้างขวางและครบวงจรอย่างแท้จริง
ปี 2563 โครงการคลินิกแก้หนี้เดินหน้าเข้าสู่ “ระยะที่ 3” โดยได้ขยายขอบเขตให้สามารถแก้ไขหนี้บัตรที่มีเจ้าหนี้รายเดียว และหนี้บัตรที่อยู่ในกระบวนการของศาลและมีคำพิพากษาแล้ว รวมทั้งปรับปรุงคุณสมบัติผู้เข้าโครงการจากเดิมต้องมีหนี้บัตรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2562 มาเป็นวันที่ 1 มกราคม 2563 และปรับเงื่อนไขจากเป็นหนี้เสีย (NPL) ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 มาเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เมื่อช่วงปลายปี
ปัจจุบัน(2564)โครงการฯ ได้ปรับปรุงคุณสมบัติผู้เข้าโครงการจากเดิมต้องมีหนี้บัตรที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 มาเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการคลีนิกแก้หนี้ มีดังนี้
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการคลีนิกแก้หนี้ มีดังนี้
อายุไม่เกิน 70 ปี ที่มีรายได้
เป็นหนี้เสียสารพัดบัตร หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน
เป็น NPL ก่อน 1 ต.ค. 64
หนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท
ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือน ก.ย. 64 มีสถานะค้างชำระ 91-120 วันขึ้นไป
ประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการคลีนิกแก้หนี้
ที่มาข้อมูล