ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วยนางสาวญาติกา แก้วบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร นางกรรณิการ์ เอี้ยวตระกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ระนอง น.ส.รมณ คงกัณฑ์ เลขาธิการสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดระนอง หน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดระนอง ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศจังหวัดระนอง ที่ห้องประชุมอินทนิล ศาลากลางจังหวัดระนอง
โดยที่การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดฝั่งอันดามันจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป แต่เวลานี้มีข้อจำกัดการเดินทางเข้าออกประเทศจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จึงต้องหาแนวทางการเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศโดยไม่กักตัว
โดยกำหนดพื้นที่ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว กำหนดช่องทาง จัดทำแผนรองรับนักท่องเที่ยว ภาวะการท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศในระนอง โดยวิเคราะห์ความพร้อมการรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะความพร้อมของพื้นที่ ที่ผู้ให้บริการและผู้เกี่ยวข้องต้องผ่านมาตรการความปลอดภัยทางสาธารณสุข หรือ SHA- Amazing Thailand Safety & Health Administration รวมถึงการสร้างแผนการสื่อสาร การสร้างความเข้าใจของคนในพื้นที่
ทั้งนี้ เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรค ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จากสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 และยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของจังหวัดระนอง
สำหรับจังหวัดระนองมีผู้ประกอบการได้รับมาตรฐาน SHA 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทภัตตาคาร/ร้านอาหาร 14 แห่ง โรงแรม/ที่พักและสถานที่จัดประชุม 12 แห่ง ประเภทนันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว 3 แห่ง ประเภทยานพาหนะ 3 แห่ง.
ด้านนางกรรณิการ์ เอี้ยวตระกูล นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดระนอง กล่าวว่า ภาครัฐและเอกชนการท่องเที่ยว จ.ระนอง โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระนอง ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กำหนดอบรม "โครงการต้นแบบยกระดับการให้บริการของสถานประกอบการ สู่มาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุข (SHA) ตามวิถีการท่องเที่ยวแนวใหม่ (New Normal Tourism Services) มุ่งสู่การท่องเที่ยวคุณภาพสูง ประจำปีงบประมาณ 2564" ให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว บริการ และร้านค้า ในพื้นที่จังหวัดระนอง เข้าสู่มาตรฐาน SHA
โครงการนี้เพื่อรองรับการท่องเที่ยววิถีชีวิตใหม่ (New Normal) และเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในพื้นที่ท้องถิ่นของจังหวัดระนอง ให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยแบ่งการอบรมเป็น 7 รุ่น คือ
รุ่นที่ 1 วันที่ 1 – 2 พฤศจิกายน 2564 ประเภทภัตตาคาร ร้านอาหาร
รุ่นที่ 2 วันที่ 3 – 4 พฤศจิกายน 2564 ประเภทโรงแรม ที่พักและสถานที่จัดประชุม
รุ่นที่ 3 วันที่ 6 – 7 พฤศจิกายน 2564 ประเภทบริษัทนำเที่ยว / ประเภทนันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว
รุ่นที่ 4 วันที่ 8 – 9 พฤศจิกายน 2564 ประเภทร้านค้าของที่ระลึก
รุ่นที่ 5 วันที่ 10 – 11 พฤศจิกายน 2564 ประเภทยานพาหนะ
รุ่นที่ 6 วันที่ 13 – 14 พฤศจิกายน 2564 ประเภทสุขภาพและความงาม / ประเภทห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า
รุ่นที่ 7 วันที่ 15 – 16 พฤศจิกายน 2564 ประเภทกีฬาและการท่องเที่ยว / ประเภทโรงละคร มหรสพ และกิจกรรม
โดยจัดอบรมที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดระนอง ผู้สมัครจะถูกเชิญเข้ากลุ่มไลน์ตามประเภทกิจการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการอบรม และการสมัครลงทะเบียนรับตราสัญลักษณ์ SHA สอบถามเพิ่มเติม: 061-5958485 หรือ Line: ranongsha
ทั้งนี้ ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่เมื่อ 27 ก.ย.เห็นชอบไทม์ไลน์แผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4 ขั้นตอน คือ
1-30 ต.ค.2564 ขยายผลจากภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ให้เปิด 4 พื้นที่จังหวัดและเกาะ คือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี(เกาะสมุย-พงัน-เต่า) พังงา(เขาหลัก-เกาะยาว) กระบี่(เกาะพีพี-ไหง-ไร่เลย์-คลองม่วง-ทับแขก)
1-30 พ.ย.2564 เปิดเพิ่มใน 10 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ กระบี่(ทั้งจังหวัด) พังงา(ทั้งจังหวัด) ประจวบคีรีขันธ์(หัวหิน-หนองแก) เพชรบุรี(ชะอำ) ชลบุรี(พัทยา-จอมเทียน) ระนอง(เกาะพยาม) เชียงใหม่(อ.เมืองเชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-ดอยเต่า) เลย(เชียงคาน) และบุรีรัมย์(อ.เมือง)
1-31 ธ.ค. 2564 ขยายสู่อีก 20 จังหวัด จังหวัดท่องเที่ยวและติดชายแดน คือ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน แพร่ หนองคาย สุโขทัย เพชรบูรณ์ ปทุมธานี อยุธยา สมุทรปราการ ตราด ระยอง ขอนแก่น นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา และนราธิวาส
ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565 เปิดเพิ่มจังหวัดชายแดนอีก 13 จังหวัด คือ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี ตาก นครพนม มุกดาหาร บึงกาฬ อุดรธานี อุบลราชธานี น่าน กาญจนบุรี ราชบุรี และสตูล