นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงจาก อย. เป็นที่เรียบร้อย บนแปลงทดลองเนื้อที่รวม 5 ไร่ ในจังหวัดลำปาง เพื่อขายเมล็ดใบ และรากทั้งหมดที่ได้จากการปลูกแก่ลูกค้าตามที่ตกลงทำสัญญากันไว้ รุกสร้างความแตกต่างโดยนำหลักการ Digital Traceability มาใช้กับทุกผลผลิตจากไร่ สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเมล็ดและรับชมแปลงปลูกด้วยระบบดิจิทัลแบบเรียลไทม์ หวังหวังปั้นธุรกิจใหม่เสริมทัพกลุ่มศรีตรัง
หลังจากบริษัท ศรีตรัง รับเบอร์แอนด์ แพลนเทชั่น จำกัด (SRP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ยื่นขอใบอนุญาตปลูกกัญชงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อขยายการลงทุนสู่ธุรกิจปลูกกัญชงในระดับต้นน้ำ โดยนำองค์ความรู้และทรัพยากรของบริษัทฯ เช่น ที่ดินเพื่อการเพาะปลูกมาใช้ต่อยอดขยายธุรกิจดังกล่าว ตามที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศ ปัจจุบัน SRP ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงจาก อย.เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเข้าสู่ธุรกิจปลูกกัญชงอย่างเต็มตัว
ทั้งนี้ หลังจากได้รับใบอนุญาตดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ สามารถดำเนินการปลูกกัญชงบนที่ดินแปลงทดลอง (Pilot Plantation) ขนาด 5 ไร่ ในพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เพื่อจำหน่ายเมล็ด ใบ และรากกัญชงทั้งหมด
ที่มาจากการปลูกแก่ลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อหรือตกลงทำสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ โดยที่ดินแปลงดังกล่าวได้รับการทดสอบแล้วว่าไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก อาทิ Arsenic (สารหนู) Cadmium (แคดเมียม) Lead (สารตะกั่ว) และMercury (ปรอท) เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานสำหรับนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมกัญชงกลางน้ำและผลิตภัณฑ์ปลายน้ำต่อไป โดยคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตล็อตแรกจากแปลงทดลองได้ในเดือนมีนาคม 2565
บริษัทฯ ได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ปลูกกัญชงรายอื่นๆ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจในระยะยาว โดยนำหลักการ “Digital Traceability” หรือการตรวจสอบข้อมูลแบบดิจิทัลมาใช้กับทุกผลผลิตกัญชงของบริษัทฯ ที่จะส่งมอบแก่ลูกค้าตามคำสั่งซื้อ เช่น สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์, รับชมภาพแปลงปลูกกัญชงแบบเรียลไทม์ เป็นต้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ไร่กัญชงของบริษัทฯ ให้ความเชื่อมั่นและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในระยะยาว
STA มีจุดมุ่งหมายยกระดับการปลูกกัญชงให้เป็นมาตรฐานและมีศักยภาพ หนุนการเติบโตให้กับบริษัทฯ ในอนาคตนอกจากการผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติที่เป็นธุรกิจหลักในปัจจุบัน โดยกรณีที่ตลาดมีความต้องการเมล็ด ใบและรากกัญชงอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ พร้อมขยายพื้นที่ปลูกเพื่อเก็บผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีที่ดินพร้อมใช้เป็นแปลงปลูกกัญชงอีกเป็นจำนวนมาก