วันที่ 29 กันยายน 2564 นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายสิทธิพล เสงี่ยม ผู้อำนวยการศูนย์ ปภ. เขต 5 นครราชสีมา ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายอำเภอคง และนายอำเภอพิมาย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำภายในลำน้ำลำสะแทด
ซึ่งไหลผ่านในพื้นที่อ.คง และ อ.พิมาย บริเวณประตูระบายน้ำบ้านคอนเมือง ม.2 ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา ซึ่งลำน้ำลำสะแทด จะรับน้ำต่อจากลำน้ำลำเชียงไกร และไหลผ่านตัวเมืองอ.พิมาย ไปยัง อ.ชุมพวงและอ.โนนแดง รวมทั้ง อ.ลำมะเมนชัย และ อ.เมืองยาง ไปยังจ.บุรีรัมย์
โดยนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมชาวบ้านได้ร่วมกันกำจัดผักตบชวาบริเวณประตูระบายน้ำดังกล่าว เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้อย่างสะดวก เพื่อรองน้ำมวลน้ำจำนวนมากจากลุ่มน้ำลำเชียงไกร ที่ไหลท่วมพื้นที่ อ.โนนไทยขณะนี้ และกำลังจะไหลมายังพื้นที่ อ.คง และ อ.พิมาย
คาดว่ามวลน้ำมหาศาลก้อนนี้จะเข้ามายังพื้นที่ อ.พิมาย ในอีก 1-2 วันนี้ จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมรับมือกับมวลน้ำก้อนนี้ ทั้งการจัดการเรื่องสิ่งกีดขวางทางน้ำตามประตูระบายน้ำต่าง ๆ
รวมทั้งการเร่งผลักดันน้ำตามลำน้ำสาขา ด้วยวิธีการสูบน้ำระยะไกลเข้าพื้นที่ หรือบ่อกักเก็บของหมู่บ้าน ในพื้นที่ที่ยังต้องการน้ำ เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านตัวเมืองอ.พิมายอย่างรวดเร็ว ลดความเสียหายจากมวลน้ำ ที่จะเอ่อเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ ชุมชน รวมทั้งโบราณสถานในตัวเมือง อ.พิมาย
ด้านนายกอบชัย บุญอรณะ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จะมีปัญหาในพื้นที่ลุ่มน้ำลำเชียงไกรเป็นหลัก ส่วนลุ่มน้ำอื่น ๆ ทั้งลุ่มน้ำลำตะคอง ลำพระเพลิง ลำมูลบน นั้น ยังไม่มีปัญหามากหนัก ส่วนพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมขณะนี้ มีในพื้นที่อ.โนนไทย อ.โนนสูง พื้นที่ต่อไปคาดว่ามวลน้ำก้อนนี้จะไปในพื้นที่ อ.พิมาย ในอีก 1-2 วัน นี้ ซึ่งอ.พิมายถือว่าเป็นพื้นที่รับน้ำจากทุกลุ่มน้ำของจังหวัดนครราชสีมา ทั้งน้ำจากลุ่มนำละคอง ลำพระเพลิง ลำเชียงไกร และลำมูลบน
การป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ อ.พิมาย ได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในหลายจุดที่สำคัญ เพื่อผลักดันน้ำให้เคลื่อนผ่านตัวอำเภอพิมายไปให้เร็วที่สุด รวมทั้งการวางแนวกระสอบทรายในพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่ชุมชน รวมถึงโบราณสถาน
อย่างไรก็ตามได้กำชับให้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ระดมความร่วมมือในการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อรองรับมวลน้ำใหม่ที่จะมาถึง หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่ปริมาณน้ำท่าที่ไหลลงอ่างฯจะเริ่มลดลงตามลำดับ คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 7-14 วัน ในส่วนพื้นที่ประสบภัยขณะนี้ มีพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้วจำนวน 16 อำเภอ จากพื้นที่ทั้งหมด 32 อำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 53 ตำบล จำนวนกว่า 5,500 หลังคาเรือน
ขณะการใช้ภาพมุมสูงสถานการณ์น้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ไหลหลากลงสู่พื้นที่ด้านท้ายอ่าง บ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ถูกน้ำท่วมมองเห็นเป็นผืนน้ำไกลสุดลูกหูลูกตา ถนนหลายเส้นทางถูกกระแสน้ำเอ่อท่วมตัดขาดการสัญจร
โดยเฉพาะถนนสุรนารายณ์เส้นทาง นครราชสีมา - อ.โนนไทย, เส้นทาง อ.โนนไทย - ต.หนองสรวง อ.ขามทะเลสอ และเส้นทาง บ้านหนองกระสัง ต.ด่านจาก - ต.กำปัง อ.โนนไทย ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมพื้นผิวจราจรสูง รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถผ่านได้ ผู้ใช้เส้นทางต้องตรวจสอบเส้นทางก่อนเดินทาง
โดยภาพรวมจ.นครราชสีมาน้ำท่วมพื้นที่อำเภอด่านขุนทด อำเภอพระทองคำ อำเภอโนนไทย และอำเภอโนนสูง อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำท่าตามแหล่งน้ำธรรมชาติไหลหลากลงสู่อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง)ในปริมาณมาก ทำให้น้ำในอ่างฯเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร(ตอนล่าง)มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 45.43 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า(26 ก.ย. 2564) ประมาณ 0.31 เมตร มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 33.459 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการระบายน้ำวันละ 30.294 ล้านลูกบาศก์เมตร
มีพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายอ่างฯ ได้รับผลกระทบได้แก่ หมู่ที่5 , 8 ตำบลจันอัด หมู่ที่1 , 4 , 6 , 8 , 9 และ 13 ตำบลเมืองปราสาท หมู่ที่ 1 , 2 ตำบลลำมูล หมู่ที่ 6 , 10 ตำบลบิง หมู่ที่ 2 ตำบลดอนชมพู หมู่ที่ 4 , 11 , 13 ,15 และ 19
ตำบลธารปราสาท ชุมชนสวนผัก เทศบาลตำบลโนนสูง อำเภอโนนสูง, หมู่ที่ 9 บ้านลำเชียงไกร ตำบลโคกสูง อำเภอเมืองนครราชสีมา และหมู่ที่ 2 , 4 , 5 , 7 และ 9 ตำบลหนองบัวละคร อำเภอด่านขุนทด ซึ่งเป็นพื้นที่เหนืออ่างฯ หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติมในพื้นที่ปริมาณน้ำท่าที่ไหลลงอ่างฯจะเริ่มลดลงตามลำดับ คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 7-14 วัน
ขณะเดียวกัน พื้นที่บ้านลำเชิงไกร หมู่ 9 ตำบลโคกสูง อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นหมู่บ้านแรก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ขณะนี้ถูกน้ำท่วมสูงทั้งหมู่บ้าน ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านกว่า 220 หลังคาเรือนเดือดร้อนหนัก ต้องอพยพออกจากหมู่บ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามหลังไม่มีฝนตกลงมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ส่งผลให้ระดับน้ำท่วมเริ่มลดลงบ้างแล้ว ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์สถานการณ์ถึงจะกลับเข้าสู่ปกติ
ขณะที่เส้นทางจาก อ.โนนไทย ไปยัง อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ระยะทาง 5 กม. ซึ่งเป็นถนนทางหลวงชนบทกระแสน้ำท่วมถนนจมมิด โดยเฉพาะที่บ้านบึงอ้อ ช่วงกลางของเส้นทางกระแสน้ำเชี่ยวกรากและรุนแรงมาก ทุกหมู่บ้านถูกน้ำท่วมทั้งหมดระดับน้ำตั้งแต่ 1 เมตร – 2 เมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ โดยต้องเป็นรถขนาดใหญ่ เช่น รถทหารสูง 6 ล้อ 10 ล้อเท่านั้น
นอกนั้นต้องใช้เรือจากหน่วยกู้ภัยหลายสำนักกว่า 20 ลำ ระดมมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเด็กๆ ผู้สูงอายุ คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง การเข้าออกของประชาชนเป็นไปอยากลำบากมาก ชาวบ้านบอกว่า เมื่อปี 2554 ยังไม่ท่วมหนักขนาดนี้ ครั้งนี้ท่วมหนักในรอบ 50 ปีของ อ.โนนสูง
โดยจาการตรวจสอบน้ำท่วมเส้นทางดังกล่าว พบรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ถูกน้ำท่วมเห็นแต่หลังคารถถูกจมน้ำมาได้ 2-3 วันแล้ว และยังมีรถอีแต๋น รถกระบะอีกหลายคันจมน้ำ โดยยังไม่สามารถนำออกมาได้ เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากรุนแรงมาก โดยมวลน้ำนี้จะอยู่ในพื้นที่ อ.โนนสูงฯ 3-4 วันน่าจะค่อย ๆ คลี่คลายสถานการณ์ลงได้ โดยได้รับการบริการจากหน่วยทหารกองพันเสนารักษ์ ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ นำรถมาบริการลำเลียงประชาชนเข้าออก พร้อมแจกจ่าบยาสามัญประจำบ้าน และยาแก้น้ำกัดเท้า