นายวิสิษฐ กอวรกุล ประธานบริหาร บริษัท เจดับบลิว เฮอร์เบิล จำกัด และบริษัทในเครือ เจดับบลิวกรุ๊ป เปิดเผยว่า ตามที่ผลงานวิจัยภายใต้โครงการพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและวิจัยของภาคเอกชนในพื้นที่ (Industrial Research and Technology Capacity Development Program: IRTC) ร่วมกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) โดยมี ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช อาจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่ เป็นหัวหน้าคณะ
ทีมนักวิจัยได้ศึกษาพบสมุนไพร 3 ชนิด คือ ขิง พุทราจีน และเห็ดหูหนูดำ มีคุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ซึ่งช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ลดการอักเสบในภาวะความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังพบว่าขิงเข้มข้นยังมีสาร Gingerol ที่เป็นประโยชน์แก่หลอดเลือด รวมถึงพบวิธีคัดเลือกคุณลักษณะเฉพาะของวัตถุดิบ เพื่อให้การออกฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย
ทางบริษัทซึ่งมุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากงานวิจัย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยสู่ระดับสากล โดยหวังช่วยลดจำนวนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดจากทั่วโลก ได้ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายใต้โครงการดังกล่าว วิจัยและพัฒนาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี จนพบสูตรตำรับยาในการช่วยให้หลอดเลือดมีความแข็งแรง
ล่าสุด บริษัทได้ลงนามสัญญารับถ่ายทอดเทคโนโลยีงานวิจัย สู่ผลิตภัณฑ์ต้นแบบในรูปผงแกรนูลชงสำเร็จพร้อมดื่ม และเครื่องดื่มสารสกัดเข้มข้นพร้อมดื่ม โดยผ่านกระบวนการทางเทคโนโลยี ที่ช่วยคงคุณค่าทางโภชนาการและประสิทธิภาพ ในการลดภาวะความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองตีบ เป็นการต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมภายใต้แบรนด์ “V FLOW”
โดยได้พัฒนาสินค้าเป็น 2 ประเภท ได้แก่ V FLOW ชนิดแคปซูล ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และ V FLOW Herbal Drink ในรูปแบบผงชงดื่มสกัดเข้มข้น สำหรับกลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงอายุ ซึ่งได้กำหนดปริมาณการบริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งวางตลาดแล้ว
สำหรับโครงการพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและวิจัยของภาคเอกชนในพื้นที่ (IRTC) นับเป็นโครงการหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมนักวิจัยจากรั้วมหาวิทยาลัย ดำเนินงานวิจัยเพื่อต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ ภายใต้การสนับสนุนตามกลไกอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ ในการยกระดับผลิตภัณฑ์และผู้ประกอบการ
โดยมีอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้สนับสนุนและผลักดันให้เกิดความร่วมมือในฐานะแม่ข่ายดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม