ภาคเอกชนโคราชขานรับนโยบายเปิดประเทศนายกฯตู่ ชี้ทำบรรยากาศดีขึ้น เผยอีสานไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว ขอรัฐปลดล็อกโคราชออกจาก “พื้นที่แดงเข้ม” ให้ภาคธุรกิจเดินหน้าต่อได้ ขอรัฐเปิดให้จัดกิจกรรม อีเว้นต์ ประชุม สัมมนา ได้ เพื่อให้ได้ประโยชน์ทั่วถึง ด้านผู้ว่าฯ เตรียมเปิด 5 อำเภอแหล่งท่องเที่ยวสำคัญโคราช ขณะเขาใหญ่พร้อมเปิดจุดกางเต้นท์ ให้นำท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติ แต่ทุกคนต้องผ่านการตรวจตามมาตรการสาธารณสุข
นายไพจิตร มานะศิลป์ กรรมการที่ปรึกษาหอการค้า จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึง นโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ว่า โดยภาพรวมเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ความรู้สึกของประชาชนดีขึ้น
แต่ก็ยังมีความกังวลในเรื่องการระบาดของโรค หากเราเปิดประเทศแล้ว ตัวเลขผู้ติดเชื้อเราจะคุมอยู่ หรือทำให้ลดลงได้หรือไม่ หรือจะกลายเป็นการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ความเสียหายจะเกิดขึ้นมาก และทุกอย่างจะหยุดนิ่ง หรือล้มหายไปเลย
ฉะนั้นจึงอยากให้รัฐมีมาตรการที่กำหนดออกมาให้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ เช่น ผู้ที่เข้ามาจะต้องผ่านการตรวจ จนมั่นใจว่า ไม่ได้นำเชื้อมาแพร่ในประเทศของเรา หรือการเข้าไปยังจุดต่าง ๆ จะต้องมีการตรวจคัดกรองที่เข้มงวดอย่างไร เป็นต้น
"เรื่องนี้นายกฯ ไม่ได้ออกมาพูด เพียงแต่เป็นนโยบายภาพรวม เช่น เข้ามาโดยไม่ต้องกักตัวแล้ว การไม่ต้องกักควรมีรายละเอียดอะไร เหล่านี้จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับคนในประเทศมากยิ่งขึ้น ภาคเอกชนเองก็ยังเป็นห่วงในเรื่องนี้ ไม่อยากให้มีการระบาดรอบที่ 5 เกิดขึ้น"นายไพจิตรกล่าว
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า การแถลงของนายกฯ ครั้งนี้ ก็ทำให้ความรู้สึกคนไทยมีความหวังมากขึ้น ดีกว่าเราไม่ทำอะไรเลย เพราะหากปล่อยให้เวลาเนินนาน หรือเราไม่มีกิจกรรมใดความเคลื่อนไหวต่าง ๆ โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ก็จะซบเซามากกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งการเปิดประเทศครั้งนี้จะเน้นไปที่การท่องเที่ยวเป็นหลัก เมืองท่องเที่ยวจะได้ประโยชน์จากมาตรการในครั้งนี้มากที่สุด และเชื่อว่าจะทำให้เมืองท่องเที่ยวคึกคักขึ้นมาได้แน่นอน เพราะจังหวัดเหล่านี้มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว และลูกค้าสำคัญคือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ทั้งนี้ หากดูตัวเลขการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา ในแต่ละปี นักท่องเที่ยวร้อยละ 95 ล้วนเป็นชาวไทย และโคราชหรือจังหวัดแถบภาคอีสาน ไม่ได้เน้นไปที่การท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ฉะนั้นเราอาจจะไม่ได้ประโยชน์จากนโยบายดังกล่าวมากนัก
สิ่งที่อยากจะนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาคือ การปลดล็อคโคราชออกจากพื้นที่แดงเข้ม เพื่อให้ธุรกิจอื่น ๆ ขับเคลื่อนไปได้ ตอนนี้เราเหมือนโดนล็อคเอาไว้ ทำอะไรมากไม่ได้ ก็ส่งผลกระทบไปถึงกิจการต่าง ๆ ที่เดินหน้าต่อไปไม่ได้ เมืองก็ไม่มีความคึกคัก หากปลดโคราชออกจากพื้นที่แดงเข้มทุกอย่างก็จะเดินหน้าไปตามกลไก
ขณะเดียวกันรัฐก็ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด และพยายามล็อคการระบาดของโรค ให้อยู่ในวงจำกัด หรือให้มีการระบาดน้อย ต้องควบคุมให้ได้ หากจะต้องล็อคเราก็ใช้มาตรการล็อคเฉพาะพื้นที่การระบาด ไม่ใช่การล็อคทั้งจังหวัดแบบที่เป็นอยู่ ขณะที่ประชาชนก็ต้องใช้ชีวิตในแบบ New normal การ์ดไม่ตกทุกอย่างก็จะเดินหน้าไปได้
ด้านนางสาวนิตยาภรณ์ พลศรี ผู้จัดการทั่วไปโรงแรม ดิอิมพีเรียล โคราช กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ในแง่ทางจิตวิทยาถือว่าดีมาก และขณะนี้ก็มีการขานรับนโยบายดังกล่าว หุ้นก็พุ่งขึ้นและภาคส่วนต่าง ๆ ก็ตอบรับดี แต่การเปิดประเทศก็จะได้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวเป็นหลัก และเมืองท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์จากนโยบายนี้
แต่จังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะในภาคอีสานรายได้หลักไม่ได้มาจากการท่องเที่ยว ฉะนั้นจึงอยากเสนอให้รัฐบาลเน้นที่การเปิดให้มีการจัดกิจกรรมในประเทศได้ก่อน เพราะขณะนี้การทำกิจกรรมอะไรก็มีข้อจำกัด โดยเฉพาะเรื่องการประชุมสัมมนา ที่ให้จัดได้เพียง 20-25 คนเท่านั้น การจัดงานอีเว้นท์ต่าง ๆ ก็ทำไม่ได้
หากรัฐบาลส่งเสริมหรือเปิดให้มีการจัดกิจกรรมเหล่านี้ได้ ก็จะได้ประโยชน์อย่างทั่วถึงกันหมด ซึ่งจะทำไปสู่การฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามการเปิดให้จัดกิจกรรม ก็จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขทางสาธารณสุข หรือการดำเนินกิจกรรมแบบ New normal เพื่อไม่ให้การระบาดของโรคกลับมาอีก
กล่าวว่า การแถลงของนายกฯมีความชัดเจน ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาก็มีความพร้อม ในการเปิดจังหวัดรับนักท่องเที่ยวเช่นกันในวันที่ 1 พ.ย.2564 นี้ แต่การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา จะต้องอยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุขของทางจังหวัดได้กำหนดไว้ ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาถึงแม้จะไม่ต้องกักตัว แต่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 2 เข็ม ขึ้นไป และจะต้องมีผลการตรวจ ATK หรือ PCR ไม่น้อยกว่า 72 ชม.ไว้ ยืนยัน ด้วย และจะต้องปฏิบัติตามมาตรที่ทางจังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด ในการเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในจังหวัดนครราชสีมา
ส่วนกรณีการเปิดสถานบันเทิง การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านได้ ในวันที่ 1 ธ.ค. 2564 นั้น เรื่องนี้ทางจังหวัดจะต้องพิจารณาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ถึงมาตรการต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
ด้านนายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ในส่วนของ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีความพร้อมในการดูแลอำนวยความสะดวก ด้านการท่องเที่ยวให้แก่พี่น้องประชาชนนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือน และเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติ ทั้งป่าเขาลำเนาไพร น้ำตก อ่างเก็บน้ำ
ความหลายหลากของพื้นที่ อีกทั้งอากาศที่เย็นสบายที่ไม่ต้องไปไกลถึงภาคเหนือ การเดินป่าชื่นชมธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ ดอกไม้ เสียงนกร้อง และส่องสัตว์ในยามค่ำคืน มนต์เสน่ห์เหล่านี้ทำให้เขาใหญ่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย ได้มาท่องเที่ยวถ่ายรูปสวย ๆ ไว้อวดกันผ่านสื่อโซเชียลต่าง ๆ
จังหวัดนครราชสีมาจะกำหนดเปิดจัดหวัด ตามโรดแมปการเปิดเมืองของรัฐบาลในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ตนเองได้มอบหมายแนวทางการปฏิบัติงาน แก่เจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาใหญ่ทุกคนว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชนให้มากขึ้น ด้วยการเปิดสถานที่ลานกางเต็นท์ลำตะคอง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสายแคมป์ได้มากางเต็นท์ พักค้างแรมที่ลานกางเต็นท์ลำตะคอง ได้อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับการเปิดเมืองของโคราช ภายใต้มาตรการการท่องเที่ยวที่รัดกุมมากยิ่งขึ้น ด้วยการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด ซึ่งขนาดพื้นที่ลานเกงเต็นท์ลำตะคองตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขแล้วสามารถรองรับได้ไม่เกินประมาณ 500 คนต่อวัน หรือกางแต็นท์ได้ประมาณ 250 หลังต่อวัน และอนุญาตให้เข้าพักได้เฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็ม และมีผลตรวจ Antigen Test Kit (ATK) เป็นลบ ไม่ติดเชื้อโควิด-19 เท่านั้น
โดยผู้ที่ประสงค์จะเข้ามากางเต้นต้องแสดงผลการตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชม. หรือมาตรวจได้ที่ทางขึ้นเขาใหญ่ จะมีชุดตรวจจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและความสุขของผู้มาพักผ่อนร่วมกัน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการท่องเที่ยวในอนาคต