กัญชงไทยสู่ตลาดสากล กระทรวงอุตสาหกรรมผนึกเอกชนผุดงาน TIHF ชิงตลาด 8 แสนล.

26 ต.ค. 2564 | 02:32 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ต.ค. 2564 | 09:31 น.

กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมมือสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทยจัดงาน Thailand International Hemp Forum & Expo 2022 ดันกัญชงไทยสู่ตลาดสากล ร่วมชิงมูลค่าตลาด 8 แสนล้านบาท

กัญชงถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าจับตาหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) เพื่อใช้ประโยชน์ในครัวเรือนและเชิงอุตสาหกรรม โดยเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ขณะที่ราชกิจจา ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ปลดล็อกทุกส่วนของกัญชา กัญชง พ้นยาเสพติด ยกเว้น ช่อดอก และเมล็ดกัญชา 
ล่าสุดนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า  ได้ดำเนินการหารือร่วมกับสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย ในประเด็นเกี่ยวกับการพัฒนาองค์ความรู้ การศึกษาและงานวิจัย เพื่อเปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับกัญชง โดยมองว่าจากทางภาครัฐได้ประกาศปลดล็อคกัญชงในประเทศ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้เร่งดำเนินการร่างแผนพัฒนาอุตสาหกรรมกัญชงเชิงพาณิชย์ 

ทั้งนี้ แผนดังกล่าวมีกำหนดนำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาในช่วงเดือนธันวาคม 2564 รวมถึงเตรียมร่างแผนงบประมาณเกี่ยวกับอุตสาหกรรมกัญชงเพื่อเสนอต่อที่ประชุม ครม. ขออนุมัติงบประมาณในช่วงปลายปี 2565 
นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะภาครัฐพร้อมให้ความร่วมมือกับภาคเอกชน โดยเฉพาะทางสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย ที่เตรียมพร้อมเดินหน้าจัดงาน Thailand International Hemp Forum & Expo 2022 (TIHF) เพื่อสนับสนุนให้ผลิตภัณฑ์กัญชงเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในประเทศไทยและระดับนานาชาติ และกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศในปลายปี 2565 

กระทรวงอุตสาหกรรมผนึกเอกชนจัดงาน TIHF

ดร.วีระชัย ณ นคร ประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย กล่าวว่า ได้ริเริ่มมีการรวมตัวกันของทุกภาคส่วน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิอีกมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนกัญชงสู่ภาคอุตสาหกรรม และผลักดันแผนการพัฒนาพืชเศรษฐกิจกัญชงมาตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี 2564 ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขที่ผลักดันให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ โดยสามารถนำประโยชน์จากพืชกัญชง มาใช้ในเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้ทุกส่วน ได้แก่ ต้น เปลือก แกนต้น ราก ใบ ช่อดอก เมล็ด และสารสกัด โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสมาชิกภายในสมาคม และภาคอุตสาหกรรมภายในประเทศไทยได้เริ่มวิจัยและพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็ว 
นายพรชัย ปัทมินทร นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย กล่าวว่า แผนพัฒนาพืชเศรษฐกิจกัญชงระหว่างปี 2565 – 2575 ที่สมาคมได้วางแนวทางไว้คือการผลักดันพืชเศรษฐกิจกัญชงของประเทศไทยสู่ความเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย ทั้งด้านการแพทย์ การท่องเที่ยว นวัตกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรมซึ่งนำไปสู่รายได้และยุทธศาสตร์ของประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยจะได้ช่วงชิงตลาดกัญชง กัญชา และกระท่อม มูลค่า 8 แสนล้านบาท โดยมีอัตราเติบโตกว่า 25% ต่อปี และ 3-5 ปีข้างหน้ามูลค่าจะเพิ่มเป็นกว่า 3 ล้านล้านบาท 
"ภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 สมาคมได้เตรียมจัดงาน TIHF หรือ The 2nd International Hemp Environmental Forum ซึ่งทางหน่วยงานภาคี Japan Hemp Association จากประเทศญี่ปุ่นได้ส่งไม้ต่อให้ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยขณะนี้ทางสมาคมได้เริ่มเทียบเชิญหน่วยงานจากนานาชาติที่อยู่ในอุตสาหกรรมกัญชงของโลก มาร่วมการประชุมสัมมนาครั้งนี้ด้วยกัน เพื่อให้เห็นถึงโอกาสของตลาดกัญชงในระดับสากล"