วันนี้ (26 ต.ค.2564) เวลา 14.15 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ 9 จังหวัด 32 สายทาง 59 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 21 แห่ง บางพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสูงแนะใช้เส้นทางเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมีความเป็นห่วงใยต่อการเดินทางสัญจรของประชาชนจึงขอให้เร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากบางพื้นที่มีปริมาณน้ำสะสมจากฝนตกต่อเนื่องทำให้เอ่อล้นท่วมผิวจราจร พร้อมให้จัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชน
พร้อมเน้นย้ำให้หน่วยงานเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการคาดการณ์กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าจะมีย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ในช่วงปลายเดือน ทำให้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้เตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง ตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้ทันที
สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 14.15 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 9 จังหวัด 32 สายทาง 59 แห่ง โดยทางหลวงในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้แก่ 1) จ.ขอนแก่น 2) จ.มหาสารคาม 3) จ.นครราชสีมา 4) จ.นนทบุรี 5) จ.อ่างทอง 6) จ.พระนครศรีอยุธยา 7) จ.สุพรรณบุรี 8) จ.นครปฐม 9) จ.กาญจนบุรี
โดยทางหลวงที่มีระดับน้ำสูงได้แก่ ทล. 2 ท่าพระ – ขอนแก่น ระดับน้ำสูง 200 ซม. ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอน ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ระดับน้ำสูง 170 ซม. ทล 3263 อยุธยา–ไผ่กองดิน ระดับน้ำสูง 200 ซม. ทล.340 สาลี-สุพรรณ ระดับน้ำสูง 180 ซม. ซึ่งมีการจราจรผ่านไม่ได้ 21 แห่ง ดังนี้
1. จ.ขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
- ทล. 2 ท่าพระ – ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 200 ซม.
- ทล.12 ขอนแก่น-พรหมนิมิตร ช่วง กม.ที่ 565+600 (จุดกลับรถใต้สะพานลำน้ำพอง) ระดับน้ำสูง 40 ซม.
2. จ.มหาสารคาม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 213 มหาสารคาม – หนองขอม กม.ที่ 5+530 (อุโมงค์ท่าขอมยาง) ระดับน้ำสูง 220 ซม.
3.จ.นครราชสีมา (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 202 ดอนตะหนิน – ตลาดไทร ช่วง กม.ที่ 93+611 ระดับน้ำสูง 10-20 ซม.
4. จ.นนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
- ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+610 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่เพื่อมุ่งหน้าแคราย) ระดับน้ำสูง 15-20 ซม.
- ทล. 302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางแพรกเพื่อมุ่งหน้าถนนแคราย) ระดับน้ำสูง 15-25 ซม.
- ทล. 307 แยกสวนสมเด็จ-สะพานนนทบุรี ช่วง กม.ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 80 ซม.
5. จ.อ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
- ทล.32 อ่างทอง - ไชโย ช่วง กม.ที่ 57+500 (จุดกลับรถบางศาลา) ระดับน้ำสูง 130 ซม. ใช้ทางกลับรถ
ด้านหน้าแทน
- ทล.33 นาคู – ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000 – 36+200 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20
ซม.
6. จ.พระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 6 แห่ง)
- ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 170 ซม. ใช้ทาง
กลับรถด้านหน้าแทน
- ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถวัดค่าย) ระดับน้ำสูง 100 ซม. ใช้ทาง
กลับรถด้านหน้าแทน
- ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 200 ซม.
ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน
- ทล. 3263 อยุธยา – ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 200 ซม. ซม. ใช้ทางกลับรถด้านหน้าแทน
- ทล.3412 บางบาล-ผักไห่ ช่วง กม.ที่ 13+900-20+000 เป็นช่วง ๆ ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทช.
4047 บริเวณแยกวัดไผ่ล้อมและแยกวัดกอไผ่
- ทล.3412 บางบาล-ผักไห่ ช่วง กม.ที่ 17+400-23+900 เป็นช่วง ๆ ระดับน้ำสูง 30 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทช.
3501 ออกแยกป่าโมก
7.จ.สุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
- ทล. 33 สุพรรณบุรี - นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 100 ซม. ใช้ทางกลับรถ
ด้านหน้าแทน
- ทล. 340 สาลี - สุพรรณบุรี กม.ที่ 49+673 – กม.ที่ 49+750 (สะพานสาลี) ระดับน้ำสูง 35-40 ซม. ใช้
ทางกลับรถด้านหน้าแทน
- ทล. 340 สาลี - สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 180 ซม. ซม. ใช้
ทางกลับรถด้านหน้าแทน
- ทล. 340 สาลี - สุพรรณบุรี กม.ที่ 71+230 – กม.ที่ 71+620 (ช่องทางคู่ขนานซ้ายขวาทาง) ระดับน้ำสูง 45 ซม.
- ทล. 3557 ถนนเข้าเมืองสุพรรณบุรี กม.ที่ 0+450 – กม.ที่ 0+726 (ด้านซ้ายทาง) ระดับน้ำสูง 35 ซม.
8.จ.นครปฐม (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 338 พุทธมณฑลสาย 4 - นครชัยศรี ช่วง กม.ที่ 24+800 -25+500 ระดับน้ำสูง 50 ซม. ใช้
ทางกลับรถด้านหน้าแทน
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1