‘วังนํ้าเขียว’ สะท้าน  ทับลาน ฟ้องศาลไล่พ้นที่400คดี

29 ต.ค. 2564 | 07:04 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ต.ค. 2564 | 14:32 น.

วังนํ้าเขียวระอุอีกรอบ อัยการเร่งฟ้องศาลโคราช ขับไล่ชาวบ้านพ้นเขตอุทยานฯทับลาน คาดติดบ่วงกว่า 400 ราย ชาววังนํ้าเขียวจี้รัฐบาล-หน่วยงานราชการ รีบแก้ปัญหาตามมติครม. 2564 ให้ทำกินในเขตป่าแต่ยังไม่คืบหน้า นัดยื่นหนังสือร้องทุกข์ประธานรัฐสภา-ส.ส.ปชป.31 ต.ค.นี้

ขณะนี้อัยการจังหวัดนครราชสีมา เป็นโจทก์เร่งส่งสำนวนยื่นศาลจังหวัดนครราชสีมา ฟ้องชาวบ้านตำบลไทยสามัคคีและตำบลวังนํ้าเขียว เป็นจำเลย ว่าบุกรุกเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน

และขอศาลสั่งให้ชดใช้ความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติในอัตราต่างๆ กันไป อาทิ คดีหมายเลขดำที่ 30118/2564 จำเลยครอบครองที่ดิน 19-3-36 ไร่ถูกเรียกชดใช้ 1.317 ล้านบาท

“ยื่นฟ้องคดีกันเป็นรายวัน ถึงตอนนี้โดนฟ้องไปแล้วนับร้อยราย เพราะต้องให้ทันภายในอายุความ 10 ปีที่จะครบ มี.ค. 2565 ซึ่งคงโดนฟ้องกันหมดกว่า 400 ราย ซึ่งเรื่องนี้ยืดเยื้อมานานนับสิบปี ทำให้เดือดร้อนวิตกกังวลกันมาก” นายภัคพล เขียวสลับ ตัวแทนชาวบ้าน อ.วังนํ้าเขียว จ.นครราชสีมา กล่าว

ชาววังน้ำเขียวชุมนุมเรียกร้องกระทรวงทรัพยฯให้ปฎิบัติตามมติครม.2 ก.พ.2564 แก้ปัญหาให้คนทำกินในเขตป่า

สำนวนฟ้องหนึ่งในกว่าร้อยคดีที่อัยการเร่งฟ้องศาลโคราชขับไล่ชาวบ้านจากพื้นที่ทับซ้อนเขตอุทยานฯทับลาน

ปัญหาพิพาทที่ดินระหว่างชาวบ้านกับอุทยานฯมีมานาน นับแต่มีพ.ร.ฎ.ตั้งอุทยานแห่งชาติ ทับลานเมื่อปี 2524 โดยประกาศแนวเขตป่าต่าง ๆ เข้าเป็นเขตอุทยานโดยไม่ได้ออกเดินสำรวจจริง ว่ามีชาวบ้านทำกินในพื้นที่อยู่ก่อนแล้ว

และไม่ได้ติดประกาศแจ้งประชาชนโดยรอบให้รับรู้ในทันที ต่อมาภายหลังส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจแล้ว บอกว่าบุกรุกเขตอุทยาน ไปแจ้งความดำเนินคดีจนเดือดร้อนมาหลายระลอก

จนต่อมามีการเดินสำรวจรังวัดร่วมเมื่อปี 2543 เพื่อปรับแนวเขตที่อุทยานฯใหม่ แก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนที่ทำกิน แต่หน่วยงานราชการไม่รับลูก และหันมาแจ้งความดำเนินคดีชาวบ้านเมื่อปี 2555 จนความขัดแย้งปะทุเป็นการเผชิญหน้าหลายครั้ง

‘วังนํ้าเขียว’ สะท้าน  ทับลาน ฟ้องศาลไล่พ้นที่400คดี

หนังสือสำนักนายกฯแจ้งกระทรวงทรัพยฯให้เร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกินทับซ้อนเขตป่าตามมติครม.2ก.พ.22564

นายภัคพลกล่าวต่อว่า ชาวบ้านยื่นเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาในหลายช่องทางและหลายรัฐบาล แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลก็เปลี่ยนนโยบาย การแก้ปัญหาไม่ได้ข้อยุติเด็ดขาด กระทั่งในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ 26 พ.ย. 2561 ได้มีมติครม.เรื่อง พื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าทุกประเภท ตามที่กระทรวงทรัพยฯเสนอ ชาวบ้านวังนํ้าเย็นจึงยื่นร้องผู้ตรวจการแผ่นดินขณะนั้น ให้เป็นเวทีแสวงหาทางออกของปัญหานี้อีกครั้ง 

หลังหารือแลกเปลี่ยนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ผู้ตรวจการแผ่นดินทำรายงานเสนอแนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินรัฐ-ชาวบ้านทับซ้อน 3 ข้อ ซึ่งต่อมาพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เห็นชอบ ตามที่นายเสกสกล (สุภรณ์- เดิม) อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ สรุปเสนอ หลังจากรับหนังสือร้องทุกข์จากชาวบ้านวังนํ้าเย็น และรวมทั้งเป็นมติครม.เมื่อ 2 ก.พ. 2564 ให้คนทำกินในเขตป่า จนทำให้ชาวบ้าน วังนํ้าเย็นเชื่อว่าปัญหานี้จะได้ข้อยุติเด็ดขาดในเร็ววัน

แนวทาง 3 ข้อของผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้แก่

1. ปรับปรุงแนวเขตอุทยานฯทับลานตามแนวจากการสำรวจรังวัดร่วมปี 2543

2. ให้กรมอุทยานฯพิจารณาอนุมัติให้คนอยู่กินในเขตอุทยาน ตามกฎหมายและ

3. ยกเลิกเขตป่าสงวนฯป่า วังนํ้าเขียว แปลง 2 ในส่วนที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแก่งดินสอ แก่งใหญ่ และแก่งสะโตน โอนให้สปก.นำไปจัดสรรให้ราษฎรเข้าทำกินต่อไป 

ผ่านมาเกิน 120 วันยังไม่มีความคืบหน้า การแก้ปัญหาที่ดินพิพาทตามมติครม. กระทั่งถึงเดือนต.ค. 2564 มานี้ กลับมีการเร่งฟ้องคดีชาว บ้านดังกล่าวขึ้นแทนจนสะท้านทั้งวังนํ้าเย็น

นายภัคพลกล่าวว่า จึงมีการรวมตัวกันชุมนุมในพื้นที่เรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยฯ เมื่อ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา และยื่นข้อเรียกร้องถึงนายกฯ 5 ข้อ คือ   
     1. มีคณะกรรมการร่วมทบทวนแนวเขต ที่ทับซ้อนพื้นที่ชุมชนให้แจ้งชัด โดยมีข้อตกลงพื้นที่ร่วมกันทุกภาคส่วน
    2. ร่วมดำเนินการปฏิรูปที่ดิน กำหนดพื้นที่วังนํ้าเขียวเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อท่องเที่ยวเชิงนิเวศและอนุรักษ์อย่างยั่งยืน 
    3. ให้นำมติคณะรัฐมนตรีลงวันที่ 30 มิ.ย. 2541 มาใช้ทันทีทั้งในส่วนของป่าไม้และอุทยานทับลาน 
    4. หยุดดำเนินคดี หรือดำเนินการใดๆ โดยให้ผ่อนผัน เช่า หรือเช่าซื้อ ให้ราษฎรได้อาศัยที่ดินดังกล่าวโดยชอบด้วยกฎหมายและ 5. ถอนคดีทั้งหมด

นอกจากนี้ ชาววังนํ้าเขียวจะจัดเวทีที่ศาลาประชาคม ตำบลไทยสามัคคี อ.วังนํ้าเขียว จ.นครราชสีมา สะท้อนปัญหาและยื่นหนังสือร้องทุกข์ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ผ่านทางนายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา และนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เคยเรียกร้องในรัฐสภา ให้รัฐยุติการดำเนินคดีกับประชาชนโดยมิชอบ ที่จะมาร่วมรับฟังปัญหาด้วย 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,727 วันที่ 3 ตุลาคม-3 พฤศจิกายน พ.ศ.2564